เบียดเบียนผู้อื่น ย่อมไม่ได้ความสุข
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๖๖๖]
เบียดเบียนผู้อื่น ย่อมไม่ได้ความสุข
ใน ขุททกนิกาย อุทาน ทัณฑสูตร มีข้อความว่า
ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล เด็กมากด้วยกัน เอาท่อนไม้ตีงูอยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถีและพระวิหารเชตวัน ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงอันตรวาสก (ผ้านุ่ง,ผ้าสบง) ทรงถือบาตร และจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังพระนครสาวัตถี ได้ทอดพระเนตรเห็นเด็กเหล่านั้นเอาท่อนไม้ตีงูอยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถี และพระวิหารเชตวัน ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า
ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อตน ย่อมเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ผู้ใคร่ความสุขด้วยท่อนไม้ ผู้นั้นย่อมไม่ได้ความสุขในโลกหน้า ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อตน ย่อมไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ผู้ใคร่ความสุขด้วยท่อนไม้ ผู้นั้นย่อมได้ความสุขในโลกหน้า
นี่เป็นผลของการกระทำทุจริตทางกายที่เป็นปาณาติบาต ถ้ากระทำลงไปแล้ว ก็ไม่ได้ความสุขในโลกหน้า เพราะเหตุว่าการกระทำนั้นเกิดจากจิตที่เป็นอกุศล เมื่อจิตที่เป็นอกุศลเป็นเหตุให้กระทำกรรมนั้น จิตที่เป็นอกุศลที่เป็นเหตุนั้นก็จะทำให้จิตที่เป็นวิบากเกิดขึ้น รับผลของกรรมที่ไม่ดี
พระผู้มีพระภาคทรงยับยั้งเด็กๆ ไม่ให้ตีงูได้ไหม? ไม่ได้ ท่านผู้ฟังเองยับยั้งได้ไหม? ก็ไม่ได้เหมือนกัน สำหรับเด็กก็คงจะยากที่จะอธิบายให้ฟังถึงเรื่องผลที่จะได้รับในโลกหน้า หรือว่าในชาติหน้า และสำหรับผู้ใหญ่ล่ะยับยั้งได้ไหม ก็ไม่ได้ แล้วแต่พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วผู้ใดจะพิจารณาไตร่ตรอง จนกระทั่งเห็นคุณและโทษของกุศลและอกุศล แล้วความเข้าใจที่ถูกต้องในสภาพธรรม จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้งในสภาพความเป็นจริงของธรรมทั้งหลายแล้ว จะทำให้ละอกุศลกรรมนั้นได้เป็นลำดับ แต่ถึงกระนั้นพระผู้มีพระภาคก็ไม่ทรงละเว้นโอกาสที่จะทรงแสดงธรรม แม้กับเด็กที่ได้กระทำอกุศลกรรมนั้น
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย