ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๕๗

 
khampan.a
วันที่  24 เม.ย. 2565
หมายเลข  43039
อ่าน  1,172

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๕๗


~ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ ไม่มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดเปรียบในพระปัญญาคุณ ในพระบริสุทธิคุณ ในพระมหากรุณาคุณ เพราะฉะนั้น ฟังคำของพระองค์ ก็จะทำให้จากความที่ไม่เคยรู้อะไรมาเลยกี่ชาติ ต่อจากนี้ก็จะไม่ใช่เป็นคนไม่รู้ เพราะได้เริ่มสะสมความเข้าใจในพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

~ ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ไม่ได้ทรงมอบหมายให้ใครเป็นศาสดาเลย ทั้งๆ ที่ในยุคนั้นก็มีพระอริยบุคคลมากมาย ก็ไม่ได้ทรงมอบหมายให้ใครเลยทั้งสิ้น เพราะพระธรรม ตรัสไว้ดีแล้ว เปลี่ยนได้ไหม? เมื่อเปลี่ยนไม่ได้ ก็มีทางเดียว คือ เคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็โดยการฟังคำของพระองค์ ไม่เปลี่ยน

~ พระธรรมทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำไปสู่ความเข้าใจถูกต้องว่าไม่มีเรา สำคัญที่สุด “อนัตตา” ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร จะเป็นอย่างที่อยากเป็น ก็ไม่ได้ จะไม่เป็นอย่างที่กำลังเป็น ก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่า เกิดแล้วเป็นแล้วทั้งหมด

~ การที่จะเป็นคนดี ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่ในชาตินี้ ชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะว่า ถ้ามีอกุศลมากๆ บ่อยๆ ก็เหมือนอย่างที่เรามองเห็นตัวอย่างของคนไม่ดีซึ่งก่อนจะถึงวันนั้นเขาก็จะต้องมีความไม่ดีเล็กๆ น้อยๆ ไม่มากมาย แต่เขาก็ไม่เห็นโทษ

~ ควรเจริญกุศลทุกทางทุกโอกาส เพราะเมื่อเป็นโอกาสของกุศลแล้วไม่ทำกุศล โอกาสของกุศลก็หมดไป โอกาสทำกุศลเป็นโอกาสที่หายากในชีวิต ในวันหนึ่งๆ ลองพิจารณาว่าอกุศลมากหรือกุศลมาก เมื่อมีโอกาสที่จะเจริญกุศลทางใด ก็ไม่ควรให้โอกาสนั้นผ่านไป เพราะเมื่อกุศลไม่เกิด อกุศลก็เกิด

~ อกุศลธรรมก็เป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ควรที่จะเห็นอกุศลของตนเองตามความเป็นจริงว่า เป็นสิ่งซึ่งมีเหตุปัจจัยที่จะเกิด ก็เกิดปรากฏ และเมื่ออบรมธรรมที่เป็นกุศลมากขึ้น ธรรมที่เป็นกุศลนั่นแหละ จะขัดเกลาบรรเทาธรรมที่เป็นอกุศลให้น้อยลงได้

~ การพูดความจริงให้เข้าใจความถูกต้อง เป็นประโยชน์ และเป็นเพื่อนเป็นผู้ที่หวังดีจริงๆ ที่จะให้พ้นจากความเห็นผิด ไม่ใช่เป็นการไปทำร้ายใครเลย แต่เป็นการให้พ้นจากการถูกทำลายด้วยความเห็นผิด

~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นประโยชน์โดยตลอด ทำให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ไม่มีแม้บทเดียว ที่จะไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นความจริงจากการทรงตรัสรู้ของพระองค์ เป็นเรื่องของการขัดเกลาทั้งนั้น จึงจะเป็นพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ต้องเป็นผู้ที่ตรง แม้แต่ในการศึกษาธรรม เพื่อขัดเกลา แล้วการที่จะขัดเกลาได้ก็ต่อเมื่อรู้ความจริง เพราะฉะนั้น ก็คือ รู้ว่าไม่มีใครสามารถที่จะเอาอกุศลที่สะสมมาในจิตของตัวเองออกทิ้งหมดไปได้เลย นอกจากปัญญาที่ค่อยๆ เกิดขึ้น

~ สภาพธรรมที่ไม่ดี นอกจากจะทำร้ายตน ก็ยังทำร้ายคนอื่นด้วย ใครไม่โกรธบ้าง? โกรธ หมดไปได้ไหม? บังคับไม่ได้ แต่ปัญญาเท่านั้นที่สามารถที่จะเห็นโทษ เมื่อไหร่ที่เห็นโทษ ก็ละด้วยความเห็นที่ถูกต้องว่าเป็นโทษ แต่ถ้าตราบใดยังไม่เห็นว่าเป็นโทษ ก็ไม่ละ

~ ความดี ไม่ใช่สิ่งที่ทำง่าย แต่เมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ปัญญาที่เข้าใจถูก ไม่เห็นว่าอย่างอื่นจะมีประโยชน์เท่ากับการสะสมคุณความดี เพื่อค่อยๆ ชำระล้างจิตให้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างที่เป็นบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) ดีทั้งหมด

~ การกระทำที่ไม่ดีหรือทุจริตทั้งหมด ก็มาจากจิตที่เป็นอกุศล ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่มีทางที่จะขัดเกลาได้เลย เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ขัดเกลา ก็เป็นอย่างที่เห็น คือ กระทำผิดต่างๆ มากมาย

~ ถ้าเห็นกำลังของอกุศล ก็จะรู้ว่า ขณะใดที่กุศลไม่เกิด ขณะนั้นเป็นอกุศล ถ้าเป็นผู้เห็นประโยชน์ของกุศลจริงๆ แม้กุศลเพียงเล็กน้อย นิดหน่อย ในชีวิตประจำวัน กำลังเผชิญหน้า ทำทันที ไม่ต้องคอยเลย

~ รู้ว่า ธรรม ยาก ลึกซึ้ง ก็ฟังต่อไป พิจารณาต่อไป เพราะไม่มีใครจะไปทำให้ปัญญาความเข้าใจเกิดขึ้นมากกว่านี้ได้ นอกจากแต่ละครั้งที่ได้ฟังแล้ว เป็นผู้ตรง เข้าใจแค่ไหนก็ตามเหตุตามปัจจัย จึงฟังอีก เพราะถ้าไม่ฟังอีก ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจมากกว่านี้ได้

~ ขั้นฟังต้องมีความเข้าใจมั่นคงที่จะรู้ว่า ไม่มีเรา แต่มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นแต่ละหนึ่งๆ หลากหลาย ตามเหตุตามปัจจัย

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมทั้งหมดที่มีจริงๆ เพื่อให้ค่อยๆ เข้าใจถูกต้องแต่ละภพแต่ละชาติแต่ละคำแต่ละขณะที่ได้ฟัง ว่า ไม่มีเราและไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น ขณะนั้นก็สงบจากความเห็นผิดว่าเป็นเรา

~ ธรรมทั้งหลายแสดงความเป็นอนัตตา โดยไม่มีใครรู้เลย อนัตตาทั้งหมด เลือกเห็นไม่ได้ เลือกคิดไม่ได้ เลือกจำไม่ได้ เลือกอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เกิดแล้วตามเหตุตามปัจจัย ก่อนเกิดรู้ไหม มีปัจจัยที่ทำให้อะไรเกิด นั่นก็แสดงถึงความเป็นอนัตตา

~ คนที่มีความเข้าใจมั่นคงที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต ต้องศึกษาธรรม เพื่อละความไม่รู้และขัดเกลากิเลสโดยประพฤติตามพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติแล้ว เพื่อการละคลายกิเลส พระภิกษุรับเงินทองไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นพระภิกษุรับเงินทอง จะเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัยที่จะขัดเกลากิเลสหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น บวชเป็นพระภิกษุ เพื่อขัดเกลากิเลสด้วยการศึกษาธรรมด้วยความเคารพที่จะต้องเข้าใจจริงๆ

~ ดีกับชั่วเข้ากันไม่ได้เลย ตรงกันข้าม แยกกัน ในขณะที่อกุศลเกิดขึ้นมาก จะดีไหวไหม?

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ เป็นประโยชน์ อารักขา (รักษา) ไม่ให้เข้าใจผิด ด้วยเหตุนี้ คำของพระองค์ใน ๔๕ พรรษา ทุกคำ เป็นคำที่จะต้องเข้าใจให้ถูกต้องจริงๆ

~ ความเข้าใจถูกนั่นแหละ ละความเข้าใจผิดซึ่ง (ความเข้าใจผิด) นำมาซึ่งโทษทุกประการ หลงเข้าใจว่าสิ่งที่ไม่ใช่บุญว่าเป็นบุญ นั่น ก็เป็นโทษแล้ว

~ เข้าใจมั่นคงหรือยังว่า คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีสำนักปฏิบัติ เพราะฉะนั้น ถ้าเข้าใจธรรมจริงๆ ไม่มีสำนักปฏิบัติแน่นอน เพราะมีธรรมเดี๋ยวนี้ เข้าใจธรรมเดี๋ยวนี้ได้ รู้แจ้งธรรมเดี๋ยวนี้ได้ ที่ไหนก็ได้ เมื่อมีปัจจัยพร้อม คือ สามารถที่จะอบรมความเข้าใจที่จะรู้ความจริงว่าเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่เรา

~ จะตายวันไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เกิดมาแล้ว ไม่พ้นความตาย วันนี้สนุกมาก หมดแล้วไม่เหลือเลย ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่เหลือเลย แต่ว่าสะสมความดีและความชั่วสืบต่อไปในจิตทุกขณะ



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ


ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๕๖



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
petsin.90
วันที่ 24 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มังกรทอง
วันที่ 24 เม.ย. 2565

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sea
วันที่ 24 เม.ย. 2565

ความเข้าใจถูกนั่นแหละ ละความเข้าใจผิดซึ่ง (ความเข้าใจผิด) นำมาซึ่งโทษทุกประการ หลงเข้าใจว่าสิ่งที่ไม่ใช่บุญว่าเป็นบุญ นั่น ก็เป็นโทษแล้ว


กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง กราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 24 เม.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 24 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Lai
วันที่ 24 เม.ย. 2565

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
tim7755tim
วันที่ 25 เม.ย. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า กราบอนุโมทนากุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Kalaya
วันที่ 25 เม.ย. 2565

กราบพระธรรม สูงสุดค่ะ ที่ท่านอาจารย์สุจินต์ได้ถ่ายทอด และกราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 25 เม.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 25 เม.ย. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต๋อยด้วยความเคารพอย่างยิ่ง และยินดีในความดีของ อ.คำปั่นด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 25 เม.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ