ความสงสัย
ขอความเข้าใจค่ะ
1. "การรู้ลักษณะสภาพธรรมะที่ปรากฎตรงตามความเป็นจริง" ที่ท่านอาจารย์กล่าวบ่อยๆ มีความละเอียดอย่างไรคะ รู้อะไร รู้อย่างไรคะ ที่เข้าใจเบื้องต้นก็มีธาตุรู้ทั้ง 6 ทาง ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ การรู้จากธาตุทั้ง 6 เช่น เห็นรู้ว่าเห็นเกิดขึ้นเพราะอาศัยตา ตาไม่เห็น แต่เป็น จักขุประสาทที่เห็น สิ่งที่ปรากฎ ที่เรียกว่าอารมณ์แต่ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าเข้าใจถูกต้องไหม แล้ว การรู้ลักษณะจริงๆ คืออย่างไรคะ
2. แล้วคำที่ว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ อาจจะเป็นธรรมขั้นสูงเกินไป ที่เกิดขึ้นได้ก็เป็นเพียงลักษณะของคิดนึกเท่านั้น ไม่ใช่เรา เพราะอาศัยเหตุปัจจัย คืออะไรคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
1. การรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม คือ รู้ตรงตัวจริงในขณะนี้ โดยไม่ใช่การคิด สิ่งที่ปรากฏทางตา มีจริง หรือ สีมีจริง แต่เห็นเป็นสัตว์ บุคคล เป็นสิ่งต่างๆ แล้ว เพราะฉะนั้นการเห็น ต้องเห็นแค่สี ปัญญาที่เป็นสติปัฏฐาน จึงรู้ตรงลักษณะ แค่ สีเท่านั้นที่ปรากฎ ปรากฎกับปัญญา ไม่ใช่ปรากฎกับจิต นี่คือความยาก ละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งกว่าจะถึงการรู้ตรงลักษณะ ก็ต้องอบรมปัญญาขั้นการฟังอย่างยาวนานนับชาติไม่ถ้วน ครับ
2. การเข้าใจธรรมไม่ใช่เรา ก็มีหลายระดับ นั่นคือ ปัญญาที่เข้าใจ ปัญญามีตั้งแต่ขั้นการฟัง ขั้นคิด และ ขั้นรู้ตรงต่อลักษณะตัวจริงในขณะนี้ ดังนั้น การจะเข้าใจตรงเดี๋ยวนี้ รู้ลักษณะ จึงยังเป็นไปไม่ได้ แต่ ค่อยๆ สะสมปัญญาขั้นการฟัง ขั้นคิดว่า เป็นแต่เพียงธรรมที่ไม่เที่ยง เกิดขึ้นและดับไป บังคับบัญชาไม่ได้ จึงไม่ใช่เรา อนัตตานั่นเอง สะสมบ่อยๆ นับชาติไม่ถ้วน ก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้นทีละน้อย หนทางนี้ เป็นหนทางไกล เพราะมากไปด้วยกิเลส คือ ความไม่รู้ ปัญญาน้อย ก็ค่อยๆ สะสมในหนทางที่ถูกต่อไป ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-เป็นเรื่องของปัญญาและสติพร้อมด้วยโสภณธรรมอื่นๆ ที่เกิดร่วมด้วย ระลึกและรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ถ้าหากไม่มีความเข้าใจตั้งแต่ขั้นการฟังแล้ว ไม่มีทางที่จะรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมได้เลย เพราะไม่รู้อะไร นั่นเอง
-อาศัยการฟังการศึกษาพระธรรมบ่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผลตรงตามความเป็นจริง เป็นประโยชน์ตั้งแต่ในขั้นการฟัง เริ่มปลูกฝังความเข้าใจถูก ว่า ธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น เป็นจริงแต่ละหนึ่ง เช่น เห็นเป็นเห็น ได้ยินเป็นได้ยิน คิดเป็นคิด จำเป็นจำ โกรธ เป็นโกรธเป็นต้น เมื่อเป็นธรรมแต่ละหนึ่ง แล้วจะเป็นเราได้อย่างไร เมื่อฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไป ความเข้าใจถูกเห็นถูกก็จะค่อยๆ เกิดขึ้น ค่อยๆ เจริญขึ้น ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...