พระอนาคามียังมีความโลภและความโกรธอยู่ เพราะมีความอยาก จริงหรือไม่
พระสุชาติอภิชาโต แสดงธรรมว่า พระอนาคามียังมีความโลภและความโกรธอยู่ เพราะมีความอยาก จริงหรือไม่ครับ
ที่มา vt.tiktok.com/ZSdxJMPff/?k=
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าใครจะกล่าวอะไรก็ตาม ก็ต้องพิจารณาว่า แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงไว้ว่าอย่างไร ความจริงเป็นอย่างไร
พระอนาคามีบุคคล เป็นพระอริยบุคคลขั้นที่ ๓ สามารถดับความติดข้องยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งที่กระทบสัมผัสกายได้ (คือ ดับความติดข้องในกามคุณ ๕ ได้) ดับความโกรธได้ ดังนั้น แม้ว่าพระอนาคามี ยังมีโลภะ เหลืออยู่ คือ ความติดข้องในภพ เพราะยังมีการเกิดอยู่ แต่ท่านไม่มีโทสะแล้ว ตามข้อความในพระไตรปิฎก ดังนี้
[เล่มที่ 67] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส เล่ม ๖ หน้าที่ ๗๑๕ - ๗๑๖
คำว่า สญฺโชนานิ มีวิเคราะห์ว่า กิเลสเหล่าใดมีอยู่แก่บุคคลใดก็ย่อมผูกพัน คือว่าย่อมร้อยรัดบุคคลนั้นไว้ในวัฏฏะ เพราะเหตุนั้น กิเลสเหล่านั้นจึงชื่อว่า สังโยชน์. อนึ่ง ควรนำสังโยชน์เหล่านี้ มาตามลำดับของกิเลสบ้าง ตามลำดับของมรรคบ้าง คือ
กามราคสังโยชน์และปฏิฆสังโยชน์ ละได้ด้วยอนาคามิมรรค
มานสังโยชน์ ละได้ด้วยอรหัตตมรรค
ทิฏฐิสังโยชน์ วิจิกิจฉาสังโยชน์ สีลัพพตปรามาสสังโยชน์ละได้ด้วยโสดาปัตติมรรค
ภวราคสังโยชน์ ละได้ด้วยอรหัตตมรรค
อิสสาและมัจฉริยะ ละได้ด้วยโสดาปัตติมรรค
กามราคสังโยชน์และปฏิฆสังโยชน์ ละได้ด้วยอนาคามิมรรค
มานสังโยชน์ ภวราคสังโยชน์ และอวิชชาสังโยชน์ ละไว้ด้วย
อรหัตตมรรค.
[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้าที่ ๔๖๖
ว่าด้วยลำดับแห่งกิเลส
กามฉันทนิวรณ์และพยาปาทนิวรณ์ อันอนาคามิมรรคย่อมละ
ถีนมิทธนิวรณ์และอุทธัจจนิวรณ์ อันอรหัตตมรรคย่อมละ
กุกกุจจนิวรณ์และวิจิกิจฉานิวรณ์ อันโสดาปัตติมรรคย่อมละ
อวิชชานิวรณ์ อันอรหัตตมรรคย่อมละ
ว่าโดยลำดับแห่งมรรค
กุกกุจจะและวิจิกิจฉา ย่อมละได้ด้วยโสดาปัตติมรรค
กามฉันทะและพยาบาทย่อมละได้ด้วยอนาคามิมรรค
ถีนมิทธะ อุทธัจจะและอวิชชาย่อม
ละได้ด้วยอรหัตตมรรค ดังนี้.
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...