เมื่อบังคับบัญชาไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำอะไรหรือ?
คำถามจาก คุณพิศาล เอกอาภากุล
เรียนถาม... ธรรมะคือ.... ตามที่เข้าใจ.. เมื่อทุกสรรพสิ่งบังคับบัญชาไม่ได้ทั้งกุศลและอกุศล.. ดังนั้นการดำเนินชีวิตปกติจึงไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย.. กรรม.. ถามว่าจะไม่เป็นการจำนนต่อกรรมหรือครับ...
กราบขอบพระคุณอย่างสูง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทุกขณะ ไม่พ้นจากธรรมเลย มีแต่สิ่งที่มีจริงที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แม้แต่ที่กล่าวว่า "การดำเนินชีวิตปกติจึงไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย" ก็คือ คิด ซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ แต่ละขณะของชีวิตที่เป็นไปนั้น ก็คือ ธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย นั่นเอง แต่ขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงคิดด้วยความเป็นเราต่างๆ นานา ถ้าเข้าใจความเป็นจริงของธรรมแล้ว ยิ่งจะมีการเจริญกุศลยิ่งขึ้น จะไม่เกียจคร้านหรือย่อหย่อนแต่อย่างใด และมีการขัดเกลากิเลสของตนเองยิ่งขึ้น เพราะความเข้าใจในความเป็นธรรม จะเกื้อกูลให้มีการเจริญกุศลทุกประการ ทั้งหมดก็คือธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย อะไรจะเกิด ล้วนมีเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดทั้งสิ้น แม้ผลของกรรมที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องมาจากเหตุ คือ กรรม ที่ได้กระทำแล้ว แม้จะคิดหรือไม่คิดว่าจำนนต่อ (ผลของ) กรรม เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ผลของกรรมก็เกิดขึ้น นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัยอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นแล้ว มีชีวิตอยู่ ก็เพื่อทำดีและฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจต่อไป
ขอเชิญอ่านบางช่วงบางตอนจากคำสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ดังนี้
อาจารย์ กุลวิไล สุทธิลักษณวนิช : มีท่านเขียนคำถามมาถามว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ เป็นไปตามเหตุปัจจัย
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ : ถ้าเห็นก็ต้องเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัยแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่มีจักขุปสาทจะเห็นได้ไหม? ไม่ได้ ได้ยินก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีโสตปสาท จะได้ยินได้ไหม? ไม่ได้ คิดนึกก็เหมือนกัน ถ้าไม่จำจะคิดอะไรได้ไหม? ไม่ได้ ขณะไหนบ้างที่ไม่เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย?
อาจารย์ กุลวิไล สุทธิลักษณวนิช : ไม่มีสักขณะเดียวเลย แต่บางท่านศึกษาแล้วคิดว่า ก็ปล่อยไปตามเหตุตามปัจจัย
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ : คิดว่าก็ปล่อยไป ใครคิด ไม่ใช่อนัตตาคิดแน่ อัตตาคิด เพราะว่าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าไม่มีใครจะไปปล่อยหรือไม่ปล่อย เพราะว่าต้องยืนยันตามที่ได้กล่าวแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่มีใครจะไปปล่อย ไม่มีใครจะไม่ปล่อย เพราะว่าเมื่อมีปัจจัยก็เกิด
อาจารย์ กุลวิไล สุทธิลักษณวนิช : เพราะว่า บางท่านศึกษาแล้ว ก็ดูเหมือนสบายๆ ก็คือไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะว่าตามเหตุตามปัจจัย
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ : เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจธรรม ไม่ใช่คิดเองว่า ทุกอย่างเป็นอนัตตา ก็สบายๆ นั่นคือคิด แต่ว่าไม่ได้เข้าใจ เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วฟังธรรมต้องเข้าใจจริงๆ และมั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง ไม่สับสน และก็ไม่เปลี่ยนด้วย อย่างกล่าวว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เพราะฉะนั้นก็สบายๆ รู้อะไร ขณะที่กำลังกล่าวว่า สบายๆ ก็เหตุปัจจัย ก็ไม่รู้ว่าขณะนั้นเพราะเหตุปัจจัย จึงคิดอย่างนั้น
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...