การเชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณเป็นความคิดที่ถูกต้องหรือผิดครับในพระพุทธศาสนา
ในชีวิตประจำวันที่เคยผ่านเรื่องราวของการเจอเหตุการณ์ทางปรากฏการที่เรียกว่าเจอผีที่เกิดขึ้น เช่นมาเปิดปิดประตู มาเปิดพัลม มาขย่มเสาเรือนมาปรากฏตัวให้คนเห็น อยากทราบทราบเป็นจริงของเรื่อง ผี ในทางปริยัติ ของพุทธศาสนาครับ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจให้รอบรู้ถึงความจริงที่เกิดปรากฏขึ้นในเหตุการณ์ ข้อนี้ครับ ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การมีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ย่อมเป็นช่วงเวลาที่ประเสริฐของชีวิต เพราะเหตุว่านำมาซึ่งความเข้าใจถูก เห็นถูก ตามความเป็นจริง เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้อง มั่นคง ในเหตุในผล ย่อมจะไม่เอนเอียงในคำพูดที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจ แบบผิดๆ ตามๆ กันมา
วิญญาณ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นจิต เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ วิญญาณหรือจิต เป็นนามธรรม ไม่มีรูปร่าง ไม่มีการล่องลอย แต่เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เกิดดับสืบต่อกันในชีวิตประจำวัน ทุกขณะของชีวิตมีจิตเกิดดับสืบต่อกันอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยปราศจากจิตเลยแม้แต่ขณะเดียว ไม่ว่าจะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ขณะที่จิตเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล หรือแม้กระทั่งขณะแรกของชีวิต ก็เป็นจิต
ประเด็นสำคัญที่ควรจะได้พิจารณา คือ ผู้ที่ไม่ได้บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสได้ทั้งหมด เมื่อตายไป (จิตขณะสุดท้ายของชีวิตในชาตินี้ เกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้) ย่อมเกิดทันที (ปฏิสนธิจิต) แต่จะไปเกิดเป็นอะไร ที่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับกรรมที่กระทำแล้ว แต่เกิดแน่นอน สังสารวัฏฏ์ก็ยังดำเนินต่อไป (มีจิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป อย่างไม่ขาดสาย) ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ก็ไม่เรียกว่าผี แต่ถ้าเป็นสัตว์ในภูมิอื่น กล่าวคือ เกิดเป็นเปรต เป็นต้น ก็อาจจะมีคำเรียกว่าผี ก็ได้ ซึ่งก็บัญญัติเรียกมาจากความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมกับรูปธรรม ที่เป็นสัตว์ในภพภูมินั้นๆ
อีกประการหนึ่ง เวลาที่เห็น หรือ ได้ยินอะไร ที่แปลกๆ ส่วนใหญ่แล้วก็คิดนึกตรึกไปตามการสะสม คิดไปต่างๆ นานา บางทีก็เกิดความกลัว ซึ่งขณะนั้นก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไป อาจจะไม่ใช่ผี ก็ได้ แต่เป็นความคิดของตนเอง
คำถาม และ คำตอบของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในเรื่องผี มีดังนี้
-ถาม : มีผีจริงหรือไม่?
-ตอบ : โดยมากเข้าใจว่า ตายแล้วเป็นผี แต่ความจริงนั้น ทันทีที่จุติคือ จิตขณะสุดท้าย ทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนั้นดับ ปฏิสนธิจิต คือ จิตขณะแรกของชาติต่อไป ก็เกิดสืบต่อทันทีไม่มีระหว่างคั่น แล้วแต่ว่าปฏิสนธิจิตนั้น เป็นผลของกรรมใดที่ทำให้เกิดในภพภูมิใด ถ้าเกิดในนรกก็ไม่มีใครมองเห็น เมื่อไม่เห็นสัตว์นรก ก็ไม่กล่าวว่าเห็นผี แต่ถ้าเกิดในภูมิที่สามารถจะปรากฏกายให้เห็นได้ คือ ขณะที่เห็นบุคคลที่ตายไปแล้ว ปรากฏร่างเหมือนที่เคยมีชีวิตอยู่ ก็เข้าใจว่าเห็นผี ความจริงเทวดาก็ปรากฏให้เห็นได้เหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าผีหรือเปล่า หรือจะเรียกว่าผีเฉพาะผู้ที่ตายแล้วเกิดเป็นเปรต และอสุรกายเท่านั้น
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...