กำลังเห็น มีอะไร_สนทนาธรรม ไทย - ฮินดี วันเสาร์ที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
" กำลังเห็น มีอะไร? "
ถอดจากคำสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
สนทนาธรรม ไทย - ฮินดี
วันเสาร์ที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕
~ ได้ยินคำว่า ขันธ์ [สิ่งที่มีจริง ที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน เป็นสภาพที่ทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า จากความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน] หมายความว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงขันธ์ แน่นอน ไม่ใช่คำของคนอื่น สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้คืออะไร? เห็นมีจริง ขันธ์ มีจริง เพราะฉะนั้น เห็น เป็นขันธ์หรือเปล่า?
~ ทุกคำสำหรับเข้าใจ ไม่ใช่บอกให้จำ
~ เห็นมีจริง เป็นขันธ์หนึ่ง เห็นที่มีจริงเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เห็นเมื่อกี้นี้ เพราะฉะนั้น เห็นเป็นขันธ์หนึ่ง และเห็นเดี๋ยวนี้เป็นอีกขันธ์หนึ่ง ใช่ไหม?
~ ได้ยิน เป็นขันธ์ ใช่ไหม ได้ยินเมื่อกี้นี้ ดับแล้ว เป็นอีกขันธ์หนึ่ง และได้ยินใหม่ เป็นอีกขันธ์หนึ่ง ใช่ไหม?
~ คิด เป็นขันธ์หรือเปล่า? เป็นขันธ์หนึ่ง ดับไป คิดอีก เป็นอีกขันธ์หนึ่ง คิดแล้วก็ดับไป ใช่ไหม
~ เห็นทั้งหมด เป็นหนึ่งขันธ์หรือเปล่า? เพราะฉะนั้น จักขุวิญญาณขันธ์ หมายความถึงอะไร?
~ อะไรก็ตาม ที่เกิดแล้วดับ เป็นขันธ์ ใช่ไหม? ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น ขันธ์ คือ แต่ละหนึ่งของสิ่งที่มีจริง มีอะไร ที่ไม่ใช่ขันธ์?
~ สิ่งที่มีจริง มีอะไรบ้าง?
~ ธรรม ไม่ง่าย แต่ถ้าคิดว่า ธรรมง่าย เพราะจำได้ นั่นไม่ถูกต้อง จะไม่สามารถเข้าใจธรรมเลย
~ ต้องเริ่มรู้ว่า ธรรมลึกซึ้ง ยาก เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ คนอื่นไม่รู้
~ ฟังแล้ว ไม่ลืมว่า ต้องเข้าใจจริงๆ ทั้งหมด สิ่งที่มีจริง ลึกซึ้งมาก ต้องไม่ลืม ต้องเข้าใจในความลึกซึ้งนั้นด้วย
~ ฟังดีๆ แล้วไตร่ตรอง แล้วคิดดีๆ แล้วตอบ ไม่ใช่จำได้รีบตอบ
~ ทำไมเราพูดถึงสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ เพราะว่า แม้สิ่งนี้มีจริงๆ ก็ไม่เข้าใจความจริงของสิ่งนั้น เพราะฉะนั้น ต้องเริ่มคิด ว่า ความจริงของสิ่งที่มีจริง นั้น เป็นอย่างไร
~ ฟังแล้วก็พิจารณาไตร่ตรอง คิดดีๆ ไม่ใช่ฟังแล้วรีบตอบหรืออยากตอบหรือจะตอบให้ถูก แต่ฟังคำถามดีๆ และก็ต้องเข้าใจ ว่า คำตอบที่ตอบนั้นคืออะไรจริงๆ ไม่ใช่ว่าตอบเพราะจำได้หรือรีบตอบ เดี๋ยวนี้มีอะไรหรือเปล่า? ไม่ต้องรีบตอบ เดี๋ยวนี้ มีอะไร? แค่เห็นเท่านั้น ยังไม่ต้องตอบอะไรมากมาย มีเห็นแน่ๆ ใช่ไหม?
~ จะเข้าใจสิ่งที่มีจริง ต้องค่อยๆ คิดแล้วตรง เป็นสัจจะ ไม่เปลี่ยน
~ ต่อไปนี้เรียนใหม่ ทีละคำ ไตร่ตรอง เข้าใจขึ้นๆ กำลังเห็น เดี๋ยวนี้ มีอะไร? จึงต้องศึกษา ต้องฟังจนกว่าจะเข้าใจ มิฉะนั้น จะไม่รู้จักเห็นเลย ทั้งๆ ที่มีเห็น กำลังเห็น ก็ไม่รู้ว่าอะไร เพราะไม่ละเอียด
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงความจริงให้รู้ตามลำดับถึงเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น จะไม่มีสติรู้ตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลย
~ ต้องเข้าใจความลึกซึ้ง ไม่เว้นเลยว่า ไม่รู้อะไร ต้องฟังเพื่อเข้าใจ เข้าใจอะไร? เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ให้ถูกต้อง
~ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แล้วจะเข้าใจอะไร?
~ กำลังเห็นเดี๋ยวนี้มีอะไร ฟังคำถาม ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ไตร่ตรอง ตรงคำถาม กำลังเห็นใช่ไหมเดี๋ยวนี้ ฟังคำถาม กำลังเห็น มีอะไร?
~ ฟังดีๆ สนทนาธรรมต้องตรง ตรงตามความเป็นจริง ไม่อย่างนั้น ปัญญาเกิดไม่ได้ ความเข้าใจไม่มี เพราะไม่ตรง สำคัญที่สุด คือ ความตรงต่อความจริง
~ ต้องฟังคำถาม ต้องตรง ถ้าไม่ตรง ไม่เข้าใจธรรม ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ต้องเป็นสัจจบารมี ตรงต่อความจริง เพราะเข้าใจถูกต้อง ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ตรง จะตรงได้อย่างไรในเมื่อไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องตรงทุกคำ ละเอียดขึ้นๆ แม้แต่คำที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ตรงไหม คำตอบตรงหรือเปล่า?
~ ต้องเริ่มเข้าใจ ธรรมลึกซึ้ง ถ้าไม่คิดไม่ไตร่ตรอง จะเห็นความลึกซึ้งได้อย่างไร
~ ธรรมลึกซึ้ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง พระองค์ตรัสรู้ความลึกซึ้งของสิ่งที่มีจริงๆ เมื่อเห็นมีจริง ความลึกซึ้งของเห็นคืออย่างไร เพราะฉะนั้น เริ่มไตร่ตรองด้วยตัวเอง ไม่ใช่ฟังคนอื่นมานั่งบอกเราว่า เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่แม้แต่เพียงคำถาม ก็ต้องตรง มิฉะนั้น จะไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ เพราะถามอย่างหนึ่ง ตอบอย่างหนึ่ง พูดอย่างหนึ่ง คิดอย่างหนึ่ง ไม่ตรงเลย แล้วจะเข้าใจได้อย่างไรในสิ่งที่มีจริงๆ
~ กำลังเห็น มีอะไร? กำลังเห็น มีเห็น ถูกต้องไหม?
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีนานเท่าไหร่ ที่จะรู้ความจริงของเห็น ใช่ไหม? เพราะฉะนั้น ต้องฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงรู้ว่า ทุกสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครรู้จัก
~ การฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เพื่อพิจารณาไตร่ตรองว่า เป็นความจริงอย่างนั้นหรือเปล่า? เพราะลองถามอีกที เห็นเป็นอะไร? ถามว่า เห็นเป็นอะไร ตอบว่า เห็นเป็นสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงมีแต่เห็นเท่านั้นหรือ เพราะฉะนั้น สิ่งที่มีจริงมีหลายอย่าง แต่ถามเฉพาะเห็นว่า เห็นเป็นอะไร? เห็น เป็น จิตเห็น เพราะฉะนั้น จิตเห็น ไม่ใช่จิตได้ยิน จิตเห็น ไม่ใช่จิตคิด จิตเห็นเป็นอะไรได้? จิตเห็น เป็นจิตคิดไม่ได้ เป็นจิตอื่นไม่ได้ จิตเห็นเป็นจิตเห็นได้เท่านั้น ถูกต้องไหม?
~ จิตเห็นเป็นเรา ได้ไหม เป็นนกได้ไหม เป็นแมวได้ไหม? ไม่ได้ เพราะฉะนั้น จิตเห็น ไม่ใช่เราเห็น ใช่ไหม? เริ่มเข้าใจธรรม เปลี่ยนไม่ได้ ธรรมต้องเป็นธรรม แต่ละหนึ่ง
~ จิตเห็นก่อนเดี๋ยวนี้ กับ จิตเห็นเดี๋ยวนี้ เป็นขันธ์เดียวกันหรือเปล่า? เป็นประเภทเดียวกัน แต่ไม่ใช่อันเดียวกัน
~ ขันธ์ที่ดับแล้วเมื่อกี้นี้ เป็นอดีต จะเป็นขันธ์เดี๋ยวนี้ ได้ไหม? ไม่ได้
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของคุณสุคิน ผู้แปลการสนทนา
จากภาษาไทยเป็นภาษาฮินดี
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง และกราบยินดีในความดีของทุกท่านด้วยค่ะ
กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบยินดีในความดีของคุณสุคินและทุกๆ ท่าน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง กราบขอบพระคุณผู้ร่วมสนทนาและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ ท่านค่ะ