ปัญญาในขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของนามหรือรูป
ขอเรียนถามว่า
๑. ขณะที่สติเกิดระลึกรู้นาม รูป ขณะนั้นมีปัญญาเกิดร่วมด้วยเสมอหรือไม่ครับ
๒. ขณะที่สติระลึกรู้นามหรือรูป ปัญญาที่รู้ว่าสภาพธรรมนั้นไม่ใช่เรา สัตว์ บุคคล มีเหตุปัจจัยทำให้เกิด ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เป็นปัญญาที่เกิดพร้อมกับสติในขณะนั้นใช่หรือไม่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในขณะที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง นั้น จะไม่ปราศจากทั้งสติ จะไม่ปราศจากทั้งปัญญา แต่ทำกิจหน้าที่ต่างกัน โดยที่สติ ทำกิจหน้าที่ระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรม ส่วน ปัญญา ทำกิจหน้าที่เข้าใจอย่างถูกต้อง เข้าใจถูกตรงตามความเป็นจริง ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่สติระลึก นั่นเอง ดังนั้น จากคำถาม ทั้ง ๒ ข้อนั้น ก็พิจารณาได้ ดังนี้
๑. ขณะที่สติเกิดระลึกรู้นาม รูป ขณะนั้นมีปัญญาเกิดร่วมด้วยเสมอหรือไม่ครับ
มีปัญญา เกิดร่วมด้วย ไม่ปราศจากปัญญา
๒. ขณะที่สติระลึกรู้นามหรือรูป ปัญญาที่รู้ว่าสภาพธรรมนั้นไม่ใช่เรา สัตว์ บุคคล มีเหตุปัจจัยทำให้เกิด ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เป็นปัญญาที่เกิดพร้อมกับสติในขณะนั้นใช่หรือไม่ครับ
ในขณะนั้น ประกอบพร้อมทั้งสติและปัญญา ครับ
ธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง นั้น ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง การศึกษาธรรมก็คือ ศึกษาสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าเป็นธรรม ทุกขณะเป็นธรรมจริงๆ ไม่พ้นไปจากนามธรรม กับ รูปธรรม ไม่พ้นไปจากจิต เจตสิก รูป เลย การมีโอกาสได้ฟังคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่ละคำที่พระองค์ตรัส ก็เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง การฟังบ่อยๆ เนืองๆ จะค่อยๆ ทำให้ปัญญาเจริญขึ้น จนกว่าจะประจักษ์แจ้งได้จริงๆ ว่า ธรรมเป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยแล้วก็ดับไปเท่านั้นเอง ครับ
...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...