เจ้าแม่กวนอิม

 
wichakorn
วันที่  28 ก.ค. 2565
หมายเลข  43405
อ่าน  541

ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอพระองค์เป็นที่พึ่ง

เจ้าแม่กวนอิมเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาอย่างไรครับ

บ้างก็เรียกท่านว่าพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม หมายถึงอะไรครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 ก.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เจ้าแม่กวนอิม ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาแต่อย่างใดเลย แต่เป็นความเชื่อที่แต่งขึ้นมาจากคนรุ่นหลังเท่านั้น เมื่อได้ศึกษาค้นคว้าจากข้อความในพระไตรปิฎกและอรรถกถาแล้ว ไม่มีคำว่า พระโพธิสัตว์ ชื่อ กวนอิม

จะเห็นได้ว่าในยุคนี้สมัยนี้มีการสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ไม่ว่าจะเป็นที่วัด หรือ ที่ใด ก็ตาม เพื่อให้คนมากราบสักการบูชา นั่น ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเท่ากับว่าทำลายคำสอนของพระองค์ ทำให้คนไม่รู้จักคำสอนของพระองค์ กลับหลงงมงายในสิ่งที่ไม่มีเหตุไม่มีผลเลย

การไปนับถือในสิ่งที่ไม่รู้จัก นับถือในสิ่งที่ไม่เป็นเหตุไม่เป็นผล เป็นธรรมดาของความไม่รู้ ความเห็นผิดที่ได้สะสมมาอย่างยาวนาน ที่มีความเชื่อถือ ความยึดถือว่าจะมีผู้ช่วยให้ได้ลาภ ยศ สักการะ สรรเสริญ สุข เป็นต้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้กลับมาตั้งต้นที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ ซึ่งจะได้เป็นผู้มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง เพราะเหตุว่า อะไรก็ตามที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ไม่มีเหตุมีผล ย่อมไม่ใช่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงนั้น เป็นคำจริง เป็นวาจาสัจจะ และที่สำคัญ เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด เพื่อละความเห็นผิด ละความไม่รู้และละกิเลสทั้งหลาย

ความเข้าใจพระธรรม ทำให้พ้นจากการตกไปในฝักฝ่ายของความเห็นผิด เมื่อตนเองเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะสามารถเกื้อกูลให้ผู้อื่นได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกพ้นจากความเห็นผิดที่เคยยึดถือผิดๆ ได้ ว่า ที่เคยทำมา นั้น ผิดอย่างไร เพื่อกลับมาสู่หนทางแห่งการเข้าใจความจริง ด้วยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ความเข้าใจพระธรรม จึงเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น

อีกประการหนึ่ง คำที่ควรจะได้มีความเข้าใจคือคำว่า "พระโพธิสัตว์" พระโพธิสัตว์ หมายถึง ผู้ที่สะสมอบรมบารมีคุณความดีประการต่างๆ เพื่อถึงความเป็นผู้ตรัสรู้ความจริง จำแนกเป็น ๓ ประเภท คือ

๑. พระมหาสัตว์ หรือ สัพพัญญูโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่สะสมอบรมเจริญบารมีเพื่อถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะต้องอบรมเจริญบารมีอย่างน้อยสี่อสงไขยแสนกัปป์

๒. ปัจเจกโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่สะสมอบรมเจริญบารมีเพื่อถึงความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ตรัสรู้เฉพาะตน พระบารมีไม่ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่ได้ทรงแสดงพระธรรมประกาศพระศาสนาเหมือนอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจเจกโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมี สองอสงไขยแสนกัปป์

๓. สาวกโพธิสัตว์
คือ ผู้ที่สะสมอบรมเจริญบารมีเพื่อถึงการตรัสรู้เป็นพระอริยบุคคลในฐานะที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การบำเพ็ญบารมีของสาวกโพธิสัตว์ มีระยะเวลาที่ต่างกัน ถ้าจะถึงความเป็นพระอัครสาวก อย่างเช่นพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ ก็บำเพ็ญบารมีหนึ่งอสงไขยแสนกัปป์ ถ้าไม่ถึงความเป็นพระอัครสาวก ก็บำเพ็ญบารมีหนึ่งแสนกัปป์ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
talaykwang
วันที่ 28 ก.ค. 2565

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ทรงศักดิ์
วันที่ 29 ก.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Kalaya
วันที่ 29 ก.ค. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wichakorn
วันที่ 29 ก.ค. 2565

กราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น

อย่างสูงยิ่งครับ ที่ให้ข้อมูลลึกชัดเจน จะได้เป็นมหากุศลสำหรับพวกเราชาวพุทธ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Junya
วันที่ 29 ก.ค. 2565

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
puttara2424
วันที่ 3 พ.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ