อุทธัจจะในธรรม เป็นอย่างไร

 
pdharma
วันที่  17 ส.ค. 2565
หมายเลข  43489
อ่าน  528

อยากทราบว่า อุทธัจจะในธรรม นั้นเป็นอย่างไร และเกิดกับ "กุศลธรรม" ด้วยหรือไม่

ขอขอบพระคุณ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตามความเป็นจริงแล้ว ขณะที่เป็นอกุศล จะไม่ปราศจากอุทธัจจะ ความฟุ้งซ่านเลย เพราะอุทธัจจะ เป็นอกุศลสาธารณเจตสิก ที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตทุกประเภท จะไม่เกิดร่วมกับกุศลจิตเลย เพราะเหตุว่า ขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้นนั้น สงบจากอกุศล นี้คือ ความเป็นจริงของธรรมที่ใครๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง และไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้เลย เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

ตัวอย่างขณะที่ฟังซ่านในธรรม คือ ในขณะที่มีความสงสัย ตกลงใจไม่ได้ในธรรม ขณะนั้น ก็มีทั้งฟุ้งซ่าน มีทั้งความสงสัย โดยมีธรรมนั่นเอง เป็นอารมณ์ ขณะนั้นไม่สงบเลย

สำหรับความเป็นจริงของอุทธัจจะ
ขอเชิญอ่านจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เพิ่มเติม ดังนี้

"บางคนอาจจะฟุ้งไปด้วยโลภะก็ได้ ถ้ากำลังต้องการอะไรสักอย่าง ก็อาจจะคิดเพลินไปเลย จะสร้างวิมานอย่างนั้นอย่างนี้ หรืออะไรอย่างโน้นก็ได้ ขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิต ที่จริงแล้วลักษณะของอุทธัจจะ ก็คือสภาพที่ไม่สงบของธรรมนั้น เมื่อธรรมนั้นเกิดแล้วจะหวั่นไหวฟุ้งไป ไม่สงบ เพราะว่าถ้าเป็นฝ่ายสงบต้องเป็นฝ่ายโสภณเจตสิก ซึ่งเป็นปัสสัทธิเจตสิก จิตตปัสสัทธิ กายปัสสัทธิ แต่ลักษณะของอุทธัจจะ โมหะเป็นลักษณะที่ไม่รู้เลย ไม่รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง มืดบอด

แม้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับธรรม เช่น ทางตากำลังเห็น โมหะก็ไม่สามารถที่จะรู้ความจริง ในสิ่งที่ปรากฏว่า เป็นแต่เพียงธาตุหรือธรรมที่ปรากฏเมื่อกระทบกับจักขุปสาท แต่โมหะไม่สามารถจะรู้อย่างนี้เลย นั่นคือโมหะ แต่อุทธัจจะเป็นสภาพที่ไม่สงบ เพราะเหตุว่าเมื่อมีความไม่รู้ ขณะนั้นจะสงบไม่ได้ แต่ว่าลักษณะของอุทธัจจะและโมหะซึ่งยังไม่ประกอบด้วยโลภะ ก็จะเป็นอาการอย่างที่เรารู้ว่า เหมือนลืม หรือว่าไม่รู้อะไร เป็นอุเบกขา แต่พอมีโลภะเกิดร่วมด้วย ก็แล้วแต่ว่า ขณะนั้นจิต ที่เราบอกว่าฟุ้ง ฟุ้งไปด้วยโลภะ คิดมากมาย เรื่องของโลภะทั้งนั้น หรือว่าฟุ้งด้วยโทสะ

เพราะฉะนั้นแสดงให้เห็นว่า เวลาที่เราบอกว่าเราฟุ้ง จิตสงบหรือว่าเป็นทุกข์ ขณะนั้นจะสงบ เป็นกุศลไม่ได้เลย แต่ว่าถ้าเป็นโทสมูลจิต เราก็คิดไปด้วยความไม่สบายใจ บางคนก็อาจจะคิดว่าจะทำร้ายคนอื่นอย่างไร หรือว่าคิดไปสารพัดเรื่อง นั่นด้วยกำลังของโทสะ แต่ถ้าคิดไปด้วยโลภะก็ดูเพลินไปเลย เรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่เราก็ใช้คำว่าฟุ้ง แสดงให้เห็นว่า ขณะนั้นจิตไม่สงบ แต่มีโลภะเกิดร่วมด้วย หรือว่าจิตไม่สงบแล้วก็มีโทสะเกิดร่วมด้วย"



...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pdharma
วันที่ 18 ส.ค. 2565

ขอถามเพิ่มเติมจาก ความเห็นที่ 1 ว่า อุทธัจจะในธรรม นี้หมายถึง อุทธัจจะในธรรม ที่ปรากฎใน ยุคนัทธสูตร หรือเปล่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2565

เรียน ความคิดเห็นที่ ๒ ครับ

ธรรม กว้างขวางมาก แม้ในที่กล่าวถึงอุทธัจจะในธรรม อย่างที่ปรากฏใน ยุคนัทธสูตร ก็ไม่พ้นจากความเป็นไปของธรรมที่เป็นอกุศล คือ กิเลส ที่ติดข้องในความเศร้าหมองวิปัสสนา (วิปัสสนูปกิเลส) ก็ต้องมีอุทธัจจะเกิดร่วมด้วย เพราะตราบใดที่ยังไม่สามารถดับกิเลสได้ ก็ยังมีกิเลสเกิดขึ้นเป็นไป แม้ใกล้จะได้ตรัสรู้ธรรม กิเลสก็ยังมีเหตุปัจจัยให้เกิดได้ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
talaykwang
วันที่ 19 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ทรงศักดิ์
วันที่ 27 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
lokiya
วันที่ 20 ธ.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เฉลิมพร
วันที่ 21 ธ.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Papsi
วันที่ 21 ธ.ค. 2565

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 24 ธ.ค. 2565

กุศล ตรงข้ามกับอกุศล อุทธัจจะเป็นอกุศลเกิดกับกุศลไม่ได้ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ