สามี-ภรรยา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ต้องรู้ปัญหาก่อน ว่าทำไมถึงคิดว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องมีเหตุ เป็นเพราะเขาหรือเรา หรือเป็นสภาพธัมมะ ฝ่ายไม่ดีเกิดขึ้น เช่น ความไม่อดทน ความไม่เห็นใจหรือความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้น ถ้าขาดคุณธรรม หรือธรรมที่เป็นฝ่ายกุศล เช่น ความอดทน หรือเมตตาแล้วก็ยากที่จะอยู่ด้วยกันได้ ตามธรรมดาก็ต้องยอมรับตามความเป็นจริงว่า เรารักตัวเองเป็นที่สุด แต่ถ้าเราคิดถึงคนอื่นบ้าง คิดถึงความสุขของคนอื่นบ้างแทนที่จะคิดถึงความสุขของตนเป็นหลัก ก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ หรืออีกฝ่ายอดทนและเข้าใจ ก็ย่อมอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้น ทางออกที่ดี ไม่ใช่ว่าจะคิดว่ายังไงก็อยู่ด้วยกันไม่ไได้ แต่พิจารณาเหตุผลว่า เป็นเพราะเรารักความสุขของตนเองเป็นหลักหรือเปล่า ถ้าเรารู้จักเสียสละบ้าง อดทนที่จะไม่คิดถึงความสุขของตนเองเป็นหลักและเห็นใจและเข้าใจต่อบุคคลที่อยู่ร่วมด้วย คิดถึงอกเขาอกเราบ้าง ก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นครับ แต่ถ้าไม่มีมีสิ่งที่กล่าวมา ก็คงเข้าใจได้ว่า จะพยายามหาทางออกอยู่คือ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับใครไม่ได้ แต่อธิบายให้เข้าใจได้ด้วยพระธรรม ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรในอนาคต บัณฑิตย่อมไม่ทิ้งพระธรรมและเมื่อมีทุกข์บัณฑิตย่อมทำความดี ไม่ทำความชั่ว
ขออนุโมทนา
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 481
ข้อความบางตอนจาก ราชสูตร
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้วจึง ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่าใครๆ ตรวจตราด้วยจิตทั่วทุกทิศแล้ว หาได้พบผู้เป็นที่รักยิ่งกว่าตนในที่ไหนๆ ไม่เลย สัตว์เหล่าอื่นก็รักตนมากเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น.
เรื่อง ความรักนำมาซึ่งทุกข์
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 389
ความโศกย่อมเกิดแต่ของที่รัก ภัยย่อมเกิดแต่ของที่รัก ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้ปลดเปลื้องได้จากของที่รัก ภัยจักมีแต่ที่ไหน.
ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก ภัยย่อมเกิดแต่ความรัก ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้พ้นวิเศษแล้วจากความรัก ภัยจักมีแต่ที่ไหน.
ขออนุโมทนาทุกความเห็นค่ะ จากความเห็นที่ 5 ถ้าเพื่อนของเรามักจะเล่าอกุศลของเขาให้เราฟังเพราะความสนิทสนม ทำให้เราเกิดอกุศลไปด้วย อีกทั้งอุปนิสัยบางอย่างทำให้เรารู้สึกขุ่นเคืองใจ ทำให้บางครั้งต้องการหลีกห่าง ถ้าเป็นแบบนี้ควรทำอย่างไร รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ควรมีเมตตากับเขา และให้คำแนะนำที่ดีกับเขา ที่สำคัญรักษาใจเราไม่ให้เป็นอกุศลค่ะ ขอยกตัวอย่างจากพระไตรปิฏกเรื่องมิตรค่ะ ..
เชิญคลิกอ่านที่นี่
การที่สามี ภรรยาจะอยู่ด้วยกันต้องมีความอดทน มีความเมตตาซึ่งกันและกันมากๆ บางคู่อยู่ด้วยกันมาตั้ง ๒๐ ปี ก็ยังแยกทางกัน ส่วนใหญ่เพราะรักตัวเองมากเมื่อคู่ของตนทำไม่ได้ดังใจก็หมดความเมตตาและความอดทน (เมตตาและอดทนเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากๆ ) บางคู่ทะเลาะกันทุกวันก็ยังอยู่ด้วยกัน ดังนั้นถ้ามีเหตุที่จะต้องทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกันมันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะธรรมเป็นอนัตตาไม่สามารถบังคับบัญชาได้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย
ก็เป็นเพื่อนกันก็ได้นี่คะ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็หมดรักกันแล้ว ในฐานะสามีภรรยาบางครั้งการเป็นเพื่อนกันก็กลับดีกว่าเดิมซะด้วยซ้ำไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง ๒ คนจะรู้ดีกว่าคนอื่นในเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งก็จะเป็นผลที่ส่งให้การตัดสินใจนั้นถูกหรือผิด ไม่มีใครที่จะรู้ดีไปกว่าคุณ ๒ คนแต่ควรจะหันหน้ามาคุยกันดีๆ ปรึกษาหารือกันเหมือนเพื่อน พยายามคิดถึงในช่วงที่เคยมีความสุขอยู่ด้วยกันและถ้าเป็นไปได้ หากตัวคุณเองเป็นผู้ที่ศึกษาธรรมจริงๆ และปฏิบัติตามจริงๆ คุณก็ควรที่จะเป็นผู้ให้ เป็นกัลยาณมิตรต่ออีกฝ่ายหนึ่ง ดิฉันท่องคาถาไว้อยู่เสมอ ๑ คาถา คือ เมื่อไรที่โทสะเกิด และเรามีความทุกข์ เหตุก็มีอยู่อย่างเดียวแต่นั้นคือ เราไม่ได้อย่างที่ใจเราต้องการ เราอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของเรา เมื่อไม่ได้มาแล้วเจ้าโทสะตัวดีและสำคัญสุดนะคะ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมค่ะ!