เรื่องราวน่าที่ยินดียิ่ง ของคุณจีรนันท์ จันทร์ค่อม สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ ๕๐๐๖
เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา คุณจีรนันท์ จันทร์ค่อม สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๕๐๐๖ และคุณ พศสพล เบญญพิธพรพงษ์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๔๙๒๘ ได้กราบขอโอกาสจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพื่อเข้าพบ ที่บ้านในซอยปรีดีพนมยงค์ ๒๖ กรุงเทพมหานคร
คุณจีรนันท์ กราบเรียนท่านอาจารย์ว่า เริ่มฟังพระธรรมที่ท่านอาจารย์แสดง เมื่อราวปลายปีพุทธศักราช ๒๕๖๓ จากการแนะนำของคุณ พศสพล เบญญพิธพรพงษ์ ซึ่งขณะนั้น คุณจีรนันท์เป็นครูสมาธิ ทุกวันตนตื่นนอนตอนตีสี่ครึ่ง แล้วนั่งสมาธิหนึ่งชั่วโมง ก่อนไปทำภารกิจต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
หลังจากที่คุณ พศสพล ได้แนะนำให้ลองฟังท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ก็รู้สึกสะกิดใจในคำที่ท่านอาจารย์ถามผู้ฟังว่า
๑. "เห็น" เห็นไหมคะ?
๒. ทำไมจึงไปนั่งสมาธิเพื่อให้เห็นนิมิต ในเมื่อ "ขณะนี้ ทุกอย่างเป็นนิมิต"
๓. ไม่มีเราปฏิบัติ มีแต่ธรรม ที่ปฏิบัติกิจหน้าที่ของธรรม
(ภาพที่เมืองลัคเนา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย พฤษภาคม ๒๕๖๕)
จากนั้น จึงติดตามฟังเรื่อยมาจนปัจจุบัน ทั้งนี้ ตนเองได้มีโอกาสติดตามท่านอาจารย์ไปยังเมืองลัคเนา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อเดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เพื่อการประดิษฐานพระธรรม ณ แดนพุทธภูมิ (คลิกอ่านที่ลิงก์นี้ : การประดิษฐานพระธรรม ณ แดนพุทธภูมิ โดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เริ่มขึ้นแล้ว! ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕) และเมื่อครั้งที่ท่านอาจารย์เดินทางไปขอนแก่น ตนก็ตามไปฟังการสนทนาธรรมครั้งนั้นด้วย (ขอเชิญคลิกอ่าน : ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ๓-๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕) คุณจีรนันท์ เล่าว่า สมัยก่อน ตนเองตื่นแต่เช้า เพื่อหุงข้าวใส่บาตรทุกวัน จำได้ว่า ตอนที่ลูกชายมีอายุ ๑๐ ขวบ เนื่องจากพ่อของเขาเป็นชาวอังกฤษ ตนเองจึงสอนลูกว่า คนไทย ซึ่งเป็นชาวพุทธ ให้ลูกถือศีล ๕ และเมื่อโตขึ้นต้องบวชให้แม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองด้วย ต่อมาตอนปิดเทอม ลูกจึงบอกแม่ว่าจะขอบวชเป็นสามเณรให้แม่ที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งแถวๆ ถนนพระรามเก้า (ปัจจุบันลูกชายอายุ ๒๑ ปี) และที่วัดแห่งนี้เอง ได้มีป้ายประชาสัมพันธ์รับสมัครครูสมาธิ ตนเองมีความฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว จึงได้ไปสมัคร และสอบเป็นครูสมาธิได้ ชีวิตที่ผ่านมา "แม้มีครูบาอาจารย์อยู่ตรงหน้า แต่ไม่รู้จักพระพุทธเจ้าเลย" คุณจีรนันท์กล่าวยอมรับถึงความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา
(ภาพที่ โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น กรกฎาคม ๒๕๖๕)
ในส่วนของคุณ พศสพล ก็ได้เล่าถึงความเป็นมาของตนเอง ก่อนที่จะได้พบและติดตามฟังท่านอาจารย์ต่อเนื่องมา ๓-๔ ปีแล้วว่า เมื่อก่อน ตนเองเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องศาสนาเลย แต่เมื่อเพื่อนๆ ชวนเข้าวัด ก็ไปตามๆ เขา เมื่อถึงวัด ก็อาสาเฝ้ารองเท้าให้เพื่อนๆ อยู่ข้างนอก และมีความสงสัยที่เพื่อนๆ มักกล่าวว่า ทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ก็มาวัด กลับออกมา หน้าตาสดใส มีความสุขกันทุกคน ซึ่งตนเองคิดว่าไม่มีเหตุผลเลย ไม่ต้องทำอะไร แค่เข้าวัดก็มีความสุข อย่างนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร
ต่อมาเมื่อตนเองไปอาศัยอยู่ในสวนคนเดียว ซึ่งมีแต่ความเงียบ และเมื่อว่างจากภารกิจการงาน ก็เลยลองเปิดฟังธรรมะในยูทูป จากหลายๆ หลวงพ่อ หลายๆ อาจารย์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งก็ฟังมาหมด ได้พบคลิปของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ครั้งแรก ฟังแล้วรู้สึกว่าเข้าใจยาก เลยปิดทิ้ง ไปฟังท่านอื่นๆ ต่อ แต่ด้วยความที่ตนเองเป็นคนชอบสงสัยว่า คำต่างๆ แต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง และมีท่านต่างๆ เหล่านั้น นำมากล่าวแสดงถึงนั้น มีความหมายจริงๆ ว่าอย่างไร อยากมีความเข้าใจในคำแต่ละคำที่ได้ฟังจริงๆ ไม่ใช่เพียงฟังผ่านๆ ไป
เมื่อเปิดยูทูป ก็คอยฟังว่า ท่านอื่นๆ ที่กล่าวคำนั้นมา จะมีคำอธิบายอะไรให้เข้าใจบ้าง ก็ไม่มีเลย มีแต่พูดคำเหล่านั้น ผ่านๆ ไป เช่น คำว่า "รู้สภาวธรรม" ก็มีแต่คนพูด แต่ก็ไม่รู้จักว่า "สภาวธรรม" จริงๆ คือ อย่างไร? ต่อมา เมื่อเปิดยูทูปพบท่านอาจารย์อีก ก็ฟังบ้าง ทำงานไปบ้าง ได้ยินเสียง มีคำต่างๆ ผ่านหู เริ่มได้ยินคำอธิบายของท่านอาจารย์ถึงความหมายที่ลึกซึ้งในคำต่างๆ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น ทีละเล็ก ทีละน้อย มากๆ ถึงตรงนี้ คุณ พศสพล ย้ำว่า ความเข้าใจเกิดขึ้น ทีละเล็ก ทีละน้อย มากๆ คลิปหนึ่งๆ ก็เปิดฟังซ้ำๆ นับสิบรอบ นานๆ วันเข้า ก็เริ่มรู้สึกถึงความรู้ ความเข้าใจในพระธรรมของตนเอง ที่ได้รับฟังจากท่านอาจารย์ เริ่มรู้สึกถึงความลึกซึ้งของคำต่างๆ ที่ไม่ใช่เพียงคำที่เพียงจำ และกล่าวผ่านๆ ไปเท่านั้น แต่ทุกคำ มีความหมายที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง และรู้ถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากขึ้น จึงติดตามฟังท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เรื่อยมา
ในตอนท้าย คุณจีรนันท์ ได้กล่าวว่า ความที่ตนเองเริ่มเข้าใจในการแสดงธรรมของท่านอาจารย์ ก็รู้สึกอยากให้พี่ชายซึ่งมีความสนใจในพระพุทธศาสนาได้ฟังท่านอาจารย์ด้วย แต่เมื่อไปชักชวน กลับถูกปฏิเสธ ต่อมา เมื่อได้พบกัน ตนก็ไม่พูดคุยเรื่องธรรมะกับพี่ชายอีกเลย เพราะไม่อยากมีเรื่องไม่สบายใจกัน
ถึงตอนนี้ ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ถึงเวลาของเขา แต่เราก็มีความหวังดี ปรารถนาดีที่จะให้ทุกคน ได้มีความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้องจริงๆ ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร เราไม่หวั่นไหวเลย เพราะเราหวังดี มีแต่ความเป็นมิตร เป็นเพื่อน ไม่ได้หวังร้ายเลย "ฟังแต่คำจริง แล้วจึงสามารถที่จะรู้ว่า อะไรเท็จ"
ชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ยินดียิ่งในกุศลของ คุณจีรนันท์ จันทร์ค่อม และคุณ พศสพล เบญญพิธพรพงษ์ มา ณ โอกาสนี้
"ทำดีและศึกษาพระธรรม"
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ ๑ ในความเมตตาและคำปรารภ ที่ให้ดำเนินการเผยแพร่ข่าวสารเพื่อการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ในครั้งนี้
กราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ ยินดีในกุศลของทุกท่านครับ
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลทุกประการของคุณจีรนันท์และคุณพศสพลค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของคุณจีรนันท์ และ คุณ พศสพล ด้วยครับ
และยินดีในกุศลวิริยะของพี่วันชัย ภู่งาม ด้วยครับ
กราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่ได้บังเกิดขึ้นค่ะ สาธุสาธุสาธุ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของคุณจีรนันท์ และ คุณ พศสพล ด้วยค่ะ