เหตุการณ์สำคัญในวันอาสาฬหบูชา ที่คุณอาจจะยังไม่ทราบ

 
แล้วเจอกัน
วันที่  25 ก.ค. 2550
หมายเลข  4363
อ่าน  13,920

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ตามปกติส่วนใหญ่ เมื่อถึงวันอาสาฬหบูชา ก็จะนึกถึง การแสดงพระธรรมเทศนาครั้งแรก จนมีพระรัตนตรัยครบเกิดขึ้นในโลก แต่ในวันอาสาฬหบูชา (ฤกษ์ดาวนักษัตรในเดือนอาสาฬหะ) ยังมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ อีก ที่ไม่ค่อยกล่าวถึง คือ ประกาศพระธรรมจักร ปฐมเทศนา การปฏิสนธิลงในพระครรภ์ ออกมหาภิเนษกรมณ์ (การออกบวช) ทำยมกปาฏิหารย์ ปราบอัญญเดียรถีย์

[เล่มที่ 73] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 304

ได้ยินว่า โดยดาวนักษัตรในเดือนอาสาฬหะหลังนั่นแล พระมหาบุรุษก็เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดา เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ประกาศพระธรรมจักร ทรงทำยมกปาฏิหาริย์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

วันอาสาฬหบูชาประกาศพระธรรมจักร ปฐมเทศนา

[เล่มที่ 55] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 130

ทรงพระดำริว่า เราจะแสดงธรรมครั้งแรกแก่ใครหนอ ทรงยังพระดำริให้เกิดขึ้นว่า อาฬารดาบสเป็นบัณฑิต อาฬารดาบสนั้นจักรู้ทั่วถึงธรรมนี้โดยเร็วพลัน แล้วทรงตรวจดูอีก ได้ทรงทราบว่าอาฬารดาบสนั้น กระทำกาละได้ ๗ วัน แล้วจึงทรงรำพึงถึงอุทกดาบส ได้ทรงทราบว่า แม้อุทกดาบสนั้นก็ได้ทำกาละไปแล้วเมื่อพลบค่ำเย็นวานนี้ จึงทรงมนสิการปรารภถึงพระปัญจวัคคีย์ว่าภิกษุปัญจวัคคีย์มีอุปการะมากแก่เรา จึงทรงพระรำพึงว่า บัดนี้ ภิกษุปัญจวัคคีย์นั้นอยู่ที่ไหนหนอ ได้ทรงทราบว่า อยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี

จึงทรงพระดำริว่า เราจักไปที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันนั้น แล้วแสดงพระธรรมจักร จึงเสด็จเที่ยวบิณฑบาตไปรอบๆ โพธิมัณฑ์เท่านั้น ๒-๓ วัน ทรงพระดำริว่า เราจักไปเมืองพาราณสีในวันอาสาฬหบูรณมี กลางเดือน ๘ พอในวันจาตุททสีขึ้น ๑๔ ค่ำ ในเวลาปัจจุสมัยใกล้รุ่ง เมื่อราตรีสว่างแล้ว พอเช้าตรู่ก็ทรงถือบาตรจีวร เสด็จดำเนินไปสิ้นหนทาง ๑๘ โยชน์ ทรงพบอุปกาชีวกในระหว่างทาง จึงตรัสบอกถึงความที่พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าแก่อุปกาชีวกนั้น แล้วได้เสด็จไปถึงป่าอิสิปคนมฤคทายวัน ในเย็นวันนั้นเอง.

เชิญคลิกอ่าน ...

ปฐมเทศนา วันอาสาฬหบูชา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

พระเถระปัญจวัคคีย์เห็นพระตถาคตเจ้าเสด็จมาแต่ไกลทีเดียว จึงได้ทำกติกากันไว้ว่า ดูก่อนอาวุโส พระสมณโคดมนี้ เวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมากในปัจจัย มีกายสมบูรณ์ มีอินทรีย์ผ่องใส มีผิวพรรณดุจทองคำ กำลังมาอยู่ เราจักไม่กระทำสามีจิกรรมมีอภิวาทเป็นต้น แก่พระสมณโคดมนี้ แต่เธอประสูติในตระกูลใหญ่โต ย่อมควรจัดอาสนะไว้ ด้วยเหตุนั้น พวกเราจักปูลาดเพียงอาสนะไว้เพื่อเธอ

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรำพึงว่า ภิกษุปัญจวัคคีย์นี้ คิดอย่างไรหนอ ก็ได้ทรงทราบความคิดด้วยพระญาณอันสามารถรู้วาระจิตของโลกพร้อมทั้งเทวโลก. ลำดับนั้น จึงทรงย่นย่อเอาเมตตาจิตอันสามารถแผ่ไปโดยไม่เจาะจง ในหมู่เทวดาและมนุษย์ทั้งปวง แล้วทรงแผ่เมตตาจิตไป.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

พระปัญจวัคคีย์เหล่านั้น โดยเฉพาะพระปัญจวัคคีย์เหล่านั้นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ถูกต้องด้วยเมตตาจิตแล้ว เมื่อพระตถาคตเจ้าเสด็จเข้าไปใกล้ไม่อาจดำรงอยู่ในกติกาของตน ได้พากันทำกิจทั้งมวลมีการอภิวาทและการลุกรับเป็นต้น แต่ยังไม่รู้ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จึงใช้วาจาเรียกโดยชื่อ และโดยคำว่า อาวุโส อย่างเดียว.

ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยังพระปัญจวัคคีย์เหล่านั้น ให้รู้ว่าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ด้วยพระดำรัสว่า ภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายอย่าเรียกตถาคต โดยชื่อ และโดยวาทะว่า อาวุโสเลย ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนี้ แล้วประทับนั่งบนบวรพุทธอาสน์ที่ตกแต่งไว้เมื่อกลุ่มดาวนักษัตรแห่งเดือนอุตตราสาฬหะ เดือน ๘ หลัง กำลังดำเนินไปอยู่ ทรงห้อมล้อมด้วยพรหม ๑๘ โกฏิ ได้ตรัสเรียกพระเถระปัญจวัคคีย์มาทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร. บรรดาพระปัญจวัคคีย์เหล่านั้น พระอัญญาโกณฑัญญเถระส่งญาณไปตามกระแสแห่งพระธรรมเทศนา ในเวลาจบพระสูตร ได้ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผลพร้อมกับพรหม ๑๘ โกฏิ. พระศาสดาทรงเข้าจำพรรษา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันนั้นนั่นเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

เรื่อง การถือปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา

[เล่มที่ 55] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 83

พระโพธิสัตว์ตรวจดูมหาวิโลกนะ ๕ ประการนี้ ด้วยประการฉะนี้แล้วคิดว่า

ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ ถึงกาลอันควรของเราแล้วที่จะเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อจะกระทำการสงเคราะห์เทวดาทั้งหลายจึงให้ปฏิญญาแล้วกล่าวว่า ขอพวกท่านไปได้ ส่งเทวดาเหล่านั้นกลับไป มีเทวดาชั้นดุสิตห้อมล้อมแล้ว ไปสู่นันทวันในดุสิตบุรี.

จริงอยู่ นันทวันมีอยู่ในทุกเทวโลกทีเดียว. เทวดาในนันทวันในเทวโลกนั้น กล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ ขอท่านจงจุติจากนันทวันนี้ไปสู่สุคติเถิด เที่ยวคอยเตือนให้พระมหาสัตว์รำลึกถึงโอกาสแห่งกุศลกรรมที่เคยกระทำไว้ครั้งก่อน. พระโพธิสัตว์อันพวกเทวดาผู้คอยเตือนให้รำลึกถึงกุศลกรรมห้อมล้อมแล้วอย่างนี้ เที่ยวไปอยู่ในเทวโลกนั้น จุติแล้วถือเอาปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระมหามายาเทวี ก็เพื่อที่จะให้ชัดแจ้งถึงวิธีที่พระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิ มีถ้อยคำที่จะบรรยายตามลำดับ ดังนี้

เชิญคลิกอ่าน ...

ปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

เรื่อง พระสุบินของพระนางมหามายา เมื่อพระโพธิสัตว์ปฏิสนธิ

ได้ยินว่า ในกาลนั้นในนครกบิลพัสดุ์ได้มีงานนักขัตฤกษ์ เดือน ๘ กันอย่างเอิกเกริก มหาชนเล่นงานนักขัตฤกษ์กัน ฝ่ายพระนางมหามายาเทวีอีก ๗ วันจะถึงวันบุรณมี ทรงร่วมเล่นงานนักขัตฤกษ์แต่ไม่มีการดื่มสุรากัน มีแต่จัดดอกไม้ของหอมและเครื่องประดับ ในวันที่ ๗ ทรงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ทรงสนานด้วยน้ำหอม ทรงสละพระราชทรัพย์สี่แสน ถวายมหาทาน แล้วทรงแต่งพระองค์ด้วยเครื่องประดับครบทุกอย่าง เสวยพระกระยาหารอย่างดี ทรงอธิษฐานองค์อุโบสถ เสด็จเข้าห้องอันมีสิริ บรรทมบนพระสิริไสยาสน์ ก้าวลงสู่นิทรารมณ์ ได้ทรงพระสุบินนี้ว่า นัยว่าท้าวมหาราชทั้ง ๔ ยกพระนางขึ้นพร้อมกับพระแท่นที่บรรทมทีเดียว ไปยังป่าหิมพานต์ แล้ววางบนพื้นแผ่นศิลามีประมาณ ๖๐ โยชน์ ภายใต้ต้นสาละใหญ่มีประมาณ ๗ โยชน์

เชิญคลิกอ่าน ...

พระสุบินของพระนางมหามายา เมื่อพระโพธิสัตว์ปฏิสนธิ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

ได้ยืน ณ ที่ควรข้างหนึ่ง. ที่นั้นเหล่านางเทวีของท้าวมหาราชทั้ง ๔ นั้น ต่างพากันมานำพระเทวีไปยังสระอโนดาต ให้สรงสนานเพื่อที่จะชำระล้างมลทินของมนุษย์ออก ให้ทรงนุ่งห่มผ้าทิพย์ ลูบไล้ด้วยของหอมทิพย์ ประดับประดาด้วยดอกไม้ทิพย์ ในที่ไม่ไกลจากที่นั้น มีภูเขาเงินอยู่ลูกหนึ่ง ภายในภูเขานั้นมีวิมานทอง พวกเขาก็ตั้งพระแท่นที่บรรทมอันเป็นทิพย์ บ่ายพระเศียรสูงขึ้นทางปราจีนทิศ (ตะวันออก) ทูลให้บรรทมในวิมานทองนั้น พระโพธิสัตว์เป็นพระยาช้างตัวประเสริฐสีขาวผ่อง เดินเที่ยวไปที่ภูเขาทองลูกหนึ่ง ในที่ไม่ไกลแต่ที่นั้น เดินลงจากภูเขาทองนั้น ขึ้นไปยังภูเขาเงิน มาทางด้านอุตตรทิศ (ทิศเหนือ) เอางวงอันมีสีราวกะว่าพวงเงินจับดอกปทุมชาติสีขาว เปล่งโกญจนาท เข้าไปยังวิมานทอง กระทำประทักษิณแท่นบรรทมของพระราชมารดา ๓ รอบแล้ว ปรากฏเหมือนกับว่าทะลุทางด้านเบื้องขวาเข้าไปในพระ อุทรของพระนาง. พระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิในวันนักขัตฤกษ์เดือน ๘ หลัง ด้วยประการฉะนี้.

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

เรื่อง เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ (ออกบวช)

[เล่มที่ 73] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 712

ขณะนั้น มารผู้มีบาปคิดว่า จักให้พระมหาสัตว์กลับไป จึงมายืนอยู่กลางอากาศกล่าวว่า ท่านมหาวีระ อย่าออกอภิเนษกรมณ์เลย นับแต่นี้ไป ๗ วัน จักรรัตนะทิพย์จะปรากฏ แก่ท่านแน่นอน.

ท่านจักครองราชย์แห่งทวีปทั้ง ๔ มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวาร กลับเสียเถิด ท่านผู้นิรทุกข์.

พระมหาบุรุษตรัสถามว่า ท่านเป็นใคร.

มารตอบว่า เราเป็นผู้มีอำนาจ [มาร]

พระมหาบุรุษตรัสว่า ดูก่อนมหาราช เรารู้ว่าจักกรัตนะ จะปรากฏแก่เรา แต่เราไม่ต้องการจักกวัตติราชย์ ไปเสียเถิดมาร อย่ามาในที่นี้เลย. แต่เราจักเป็นพระพุทธเจ้า ผู้นำพิเศษในโลก บันลือลั่นไปทั่วหมื่นโลกธาตุ.

มารนั้น ก็อันตรธานไปในที่นั้นนั่นเอง.

เชิญคลิกอ่าน ...

เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ (ออกบวช)

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

เวลาที่พระชนมายุ ๒๙ พรรษา พระมหาสัตว์ทรงทิ้งจักรวรรดิราชย์ที่ตกอยู่ในพระหัตถ์ ไม่ทรงเยื่อใยเหมือนก้อนเขฬะ เสด็จออกจากพระราชย์นิเวศน์อันเป็นสิรินิวาสแห่งจักรพรรดิ เมื่อดาวนักษัตรอุตตราสาฬหะเพ็ญเดือนอาสาฬหะ เสด็จออกจากพระนคร ได้มีพระประสงค์จะทรงแลดูพระนคร ในลำดับแห่งความตรึกนั่นเอง ภูมิประเทศนั้น ก็แปรเปลี่ยนไปเหมือนจักรแป้นหมุนทำภาชนะดิน แก่พระองค์ พระมหาสัตว์ทรงยืนอยู่อย่างเดิม ทอดพระเนตรกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงกระตุ้นม้ากัณฐกะให้บ่ายหน้าไปตามทางที่พึงไป แสดงเจดียสถาน ชื่อ กัณฐกนิวัตตนะ ที่ม้ากัณฐกะหันหน้ากลับ ณ ภูมิประเทศนั้นเสด็จไปด้วยสักการะยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุให้เกิดสิริอันโอฬาร.

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

เรื่อง พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ในวันอาสาฬหบูชา (ดาวนักกษัตร อาสาฬหะ)

[เล่มที่ 60] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖ - หน้าที่ 331

กล่าวความจำเดิมแต่ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ ถือเอาบาตรไม้จันทน์แดง ในสำนักของราชคหเศรษฐี ได้ด้วยฤทธิ์แล้ว พระศาสดาตรัสห้ามการกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ แก่ภิกษุทั้งหลาย.

ครั้งนั้น เหล่าเดียรถีย์คิดกันว่าพระสมณโคดม ทรงห้ามการกระทำอิทธิปาฏิหาริย์เสียแล้ว ที่นี้แม้ตนเองก็คงจักกระทำไม่ได้ ครั้นถูกพวกสาวกของตนซึ่งขายหน้าไปตามกันพูดว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านทั้งหลายถือเอาบาตรด้วยฤทธิ์ไม่ได้แล้วหรือ ก็พากันแถลงว่าผู้มีอายุทั้งหลาย นั่นมิใช่เป็นการที่พวกเราจะกระทำได้ยากเลย แต่ที่พวกเราไม่ถือเอาเพราะคิดกันว่า ใครเล่าจักประกาศคุณที่ละเอียดสุขุมของตนแก่พวกคฤหัสถ์เพื่อต้องการบาตรไม้อันเป็นประหนึ่งศพ ฝ่ายพวกสมณศากยบุตรพากันสำแดง ถือเอาไปเพราะเป็นคนโง่ ใจโลเล พวกเธออย่าคิดเลยว่า การกระทำฤทธิ์เป็นเรื่องหนักของพวกเรา เพราะพวกเราน่ะพวกสาวกของสมณะโคดมจงยกไว้เถิด แต่จำนงจะแสดงฤทธิ์กับพระสมณโคดม แม้นว่าพระสมณะโคดมจักกระทำปฏิหาริย์อย่างหนึ่ง ฝ่ายพวกเราจักกระทำให้ได้สองเท่า.

เชิญคลิกอ่าน ...

ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในวันอาสาฬหบูชา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

ภิกษุฟังเรื่องนั้นแล้วพากันกราบทูลแด่พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข่าวว่าพวกเดียรถีย์จักพากันกระทำปฏิหาริย์. พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จงพากันกระทำเถิด แม้เราก็จักกระทำบ้าง.

พระเจ้าพิมพิสารทรงสดับเรื่องนั้น เสด็จมากราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข่าวว่าจักทรงการทำปาฏิหาริย์. ตรัสว่า ขอถวายพระพร มหาบพิตร . ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แล้วมิใช่หรือ. ตรัสว่า มหาบพิตร นั่นอาตมาภาพบัญญัติแก่หมู่สาวก แต่สิกขาบทของพระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มี มหาบพิตร เหมือนอย่างว่า ดอกไม้และผลไม้ในพระอุทยานของมหาบพิตร ทรงห้ามไว้แก่ชนเหล่าอื่น มิได้ทรงห้ามแก่บพิตร ฉันใด ข้อนี้ก็พึงเห็นเทียบเคียงฉันนั้น.

ทูลถามสืบไปว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์จักทรงกระทำปาฏิหาริย์ ณ ที่ไหนพระเจ้าข้า ตรัสว่า ณ โคนไม้คัณฑามพฤกษ์ใกล้ประตูเมืองสาวัตถี ขอถวายพระพร

ทูลถามว่า ในเรื่องนั้นพวกหม่อมฉันจะต้องทำอะไรบ้าง.

ตรัสว่า ไม่มีอะไรเลยมหาบพิตร.

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

ครั้นวันรุ่งขึ้น พระศาสดาทรงกระทำภัตกิจเสร็จ ก็เสด็จจาริกไปหมู่มนุษย์พากันถามว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าทั้งหลาย พระศาสดาจักเสด็จไป ณ ที่ไหน พระเจ้าข้า พวกภิกษุบอกว่า ไปกระทำยมกปาฏิหาริย์กำราบเดียรถีย์ ณ โคนไม้คัณฑามพฤกษ์ ใกล้ประตูเมืองสาวัตถี.

มหาชนฟังถ้อยคำของพวกภิกษุเหล่านั้นแล้วคิดว่า พระปาฏิหาริย์จักมีทีท่าน่าอัศจรรย์เป็นไฉน พวกเราต้องไปดูปาฏิหาริย์นั้น แล้วปิดประตูเรือน ไปกับพระศาสดาเลยทีเดียว. พวกอัญเดียรถีย์ก็พากันบอกว่าแม้พวกเราก็จักพากันกระทำปาฏิหาริย์ ณ สถานที่ที่สมณโคดมกระทำปาฏิหาริย์ พากันติดตามพระศาสดาไปกับพวกอุปัฏฐากเหมือนกัน.

พระศาสดาเสด็จถึงเมืองสาวัตถีโดยลำดับ

พระราชาทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข่าวว่าจักทรงกระทำปาฏิหาริย์หรือพระเจ้าข้า

ตรัสว่า จักกระทำ ขอถวายพระพร

ทูลถามว่า เมื่อไรพระเจ้าข้า

ตรัสว่า ในวันที่ ๗ จากวันนี้ เป็นวันเดือนอาสาฬห (เดือน ๘) .

กราบทูลว่า หม่อมฉันจะทำมณฑปพระเจ้าข้า.

ตรัสว่า อย่าเลยมหาบพิตร ท้าวสักกะจักกระทำมณฑปแก้วขนาด ๑๒ โยชน์ ในที่กระทำปาฏิหาริย์ของอาตมาภาพ.

กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันขอป่าวร้องเรื่องนี้ในพระนคร พระเจ้าข้า.

ตรัสว่า ป่าวร้องเถิด มหาบพิตร.

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

พระราชาตรัสสั่งธรรมโฆสก (ผู้ป่าวร้องธรรม) ขึ้นเหนือหลังช้างที่ ประดับประดาแล้วทำการโฆษณาทุกๆ วันจนถึงวันที่ ๖ ว่า ได้ยินว่า พระศาสดาจักทรงกระทำพระปาฏิหาริย์กำราบเดียรถีย์ ณ โคนไม้คัณฑามพฤกษ์ใกล้เมืองสาวัตถีในวันที่ ๗ แต่วันนี้. พวกเดียรถีย์รู้ข่าวว่าจักทรงกระทำพระปาฏิหาริย์ ณ โคนไม้คัณฑามพฤกษ์ ก็พากันให้ทรัพย์แก่พวกเจ้าของให้ตัดต้นมะม่วงที่ใกล้เมืองสาวัตถีเสีย.

ถึงวันเพ็ญแต่เช้าตรู่ ธรรมโฆสกป่าวร้องก้องสนั่นว่า พระปาฏิหาริย์ของพระผู้ทรงพระภาคจักปรากฏในวันนี้. ด้วยอานุภาพแห่งเทวดาได้เป็นประหนึ่งว่า ยืนปรากฏป่าวร้องที่ประตู ชมพูทวีปทั้งสิ้น. ชนเหล่าใดๆ เกิดคิดจะไป ชนเหล่านั้นก็เห็นตนถึงเมืองสาวัตถีทีเดียว. ประชุมชนได้มีปริมณฑล ๑๒ โยชน์.

พระศาสดาเสด็จเข้าสู่พระนครสาวัตถีแต่เช้าตรู่ เมื่อโปรดสัตว์แล้วเสด็จออก. คนเฝ้าพระอุทยานชื่อคัณฑะ กำลังนำผลมะม่วงสุกผลใหญ่ ขนาดหม้อ สุกงอมทีเดียวไปถวายพระราชา พบพระศาสดาที่ประตูพระนคร คิดว่า ผลมะม่วงสุกสมควรแก่พระตถาคตเจ้าแท้ๆ จึงได้ถวาย.

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

พระศาสดาทรงรับประทับนั่ง ณ ส่วนหนึ่ง ใกล้ประตูพระนครนั้นเอง เสวยเสร็จ ตรัสว่า อานนท์ เธอจงให้เมล็ดมะม่วงนี้แก่คนเฝ้าอุทยานเพื่อปลูกตรงนี้ ต้นมะม่วงนี้จักมีนามว่า คัณฑามพะ. พระเถระเจ้าได้กระทำตามนั้น

คนเฝ้าอุทยานคุ้ยดินแล้วปลูก. ทันใดนั้นเองรากทั้งหลายก็ชำแรกเมล็ดหยั่งลงไป. หน่อสีแดงขนาดเท่าหัวคันไถ ก็ตั้งขึ้น เมื่อมหาชนกำลังดูอยู่นั่นเอง ต้นมะม่วงมีลำต้นวัดรอบถึง ๕๐ ศอก มีกิ่งยาว ๕๐ ศอก โดยส่วนสูงเล่า ก็มีประมาณ ๑๐๐ ศอก ทันทีทันใด ต้นมะม่วงนั้นก็ออกช่อและมีผลมากมาย ต้นมะม่วงนั้นระย้าระยับด้วยดอกและผล มีสีเหมือนสีทอง มีรสอร่อย ปรากฏประหนึ่งเต็มท้องฟ้า. เวลาต้องลมพัดผลสุกอันอร่อยทั้งหลายก็หล่นลง พวกภิกษุที่พากันมาทีหลังต่างก็มาฉัน. ถึงเวลาเย็นท้าวเทวราชทรงรำพึงทราบว่า การสร้างรัตนมณฑปเพื่อพระศาสดา เป็นภาระของพวกเรา ทรงส่งวิษณุกรรมเทพบุตรไปสร้างมณฑปแก้ว ๗ ประการ มีประมาณ ๑๒ โยชน์ ดารดาษด้วยอุบลเขียว เทพดาในหมื่นจักวาลพากันมาประชุมด้วยประการฉะนี้.

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 ก.ค. 2550

พระศาสดาทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์กำราบเหล่าเดียรถีย์ มิใช่เป็นเรื่องทั่วไปกับสาวก ทรงทราบความที่ชนเป็นอันมากพากันเลื่อมใส เสด็จลงประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ ทรงแสดงธรรม ฝูงปาณชาติ ๒๐ โกฏิพากันดื่มน้ำอมฤต. ต่อจากนั้นทรงพระดำริว่า ก็พระพุทธเจ้าแต่ปางก่อน ทรงกระทำปาฏิหาริย์แล้วเสด็จไป ณ ที่ไหน ทรงทราบว่า เสด็จไปสู่ดาวดึงส์พิภพจึงเสด็จลุกจากพระพุทธอาสน์ ย่างพระบาทเบื้องขวาเหยียบเขายุคนธร พระบาทซ้ายเหยียบยอดเขาสิเนรุ แล้วเสด็จเข้าจำพรรษาเหนือบัณฑุกัมพลศิลา โคนปาริฉัตตกพฤกษ์ ภายในระยะกาล ๓ เดือน ทรงแสดงพระอภิธรรมกถาแก่ฝูงเทวดา.

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
wannee.s
วันที่ 26 ก.ค. 2550

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก

การดำรงชีวิตอยู่เป็นของยาก

การอุบัติของพระพุทธเจ้าเป็นของยาก

การได้ฟังธรรมเป็นของยาก

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
olive
วันที่ 26 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
pirmsombat
วันที่ 26 ก.ค. 2550

อนุโทนาครับ ยอดเยี่ยม

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Nareopak
วันที่ 26 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
aiatien
วันที่ 26 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
aditap
วันที่ 26 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาที่ได้นําข้อความในพระไตรปิฎกและอรรถกถามาให้อ่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
ตุลา
วันที่ 27 ก.ค. 2550

ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย

ขอขอบคุณ..คุณแล้วเจอกันที่ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมจากที่เคยได้เรียนมาค่ะ

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
Sam
วันที่ 27 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
udomjit
วันที่ 28 ก.ค. 2550

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 28 ก.ค. 2550
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
namarupa
วันที่ 29 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาเช่นกันค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 26  
 
Guest
วันที่ 30 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
wannee.s
วันที่ 30 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 28  
 
suwit02
วันที่ 16 ก.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 29  
 
jaem
วันที่ 23 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 30  
 
pamali
วันที่ 23 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 31  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 6 เม.ย. 2554
ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 32  
 
เข้าใจ
วันที่ 12 ก.พ. 2556

ซาบซึ้งใจมากครับ ขอบพระคุณ และขอกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 33  
 
chatchai.k
วันที่ 30 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 34  
 
orawan.c
วันที่ 2 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 35  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 21 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ