เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่าย

 
สารธรรม
วันที่  8 ก.ย. 2565
หมายเลข  43769
อ่าน  246

พระผู้มีพระภาคก็ยังตรัสต่อไปว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เรียกภิกษุรูปที่เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่าย เพราะเหตุได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร ว่าเป็นคนว่าง่ายเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เพราะภิกษุรูปนั้น เมื่อไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย เภสัชบริขารนั้น ก็จะไม่เป็นคนว่าง่าย จะไม่ถึงความเป็นคนว่าง่ายได้

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุรูปใดแล มาสักการะ เคารพนอบน้อมพระธรรมอยู่ เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่าย

คือว่าง่ายในพระธรรมวินัย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เราเรียกภิกษุรูปนั้นว่าเป็นคนว่าง่ายดังนี้

เพราะฉะนั้นแหละ ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจะเป็นผู้สักการะ เคารพ นอบน้อมพระธรรม จักเป็นผู้ว่าง่าย จักถึงความเป็นคนว่าง่าย ดังนี้

ความเป็นคนว่าง่าย ไม่ใช่เพียงเวลาที่ได้กระทบกับถ้อยคำอันไม่เป็นที่พอใจเท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นคนว่าง่ายในพระธรรมวินัยนั้น ไม่ใช่ถึงความเป็นคนว่าง่าย ถ้าเป็นภิกษุ ก็เพราะเหตุว่าได้จีวร ได้บิณฑบาต ได้เสนาสนะ แต่ว่าผู้ใดมาเคารพ สักการะ นอบน้อมพระธรรมอยู่ เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่ายในพระธรรมวินัยนี้

เพราะฉะนั้น พุทธบริษัทควรจะตรวจสอบถึงความเป็นบุคคลผู้ว่าง่ายของท่านเองด้วยว่า ว่าง่ายในขั้นไหน ในขั้นที่ยังไม่ได้กระทบกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจ หรือว่าง่ายแม้ในพระธรรมวินัย เพราะเหตุว่าสิ่งใดก็ตามที่มีอยู่ในพระธรรมวินัย ท่านควรจะว่าง่ายในลักษณะใด ควรจะเป็นผู้ที่สอบทาน ศึกษา พิจารณา เทียบเคียงให้ถูกต้อง ไม่ถือความเห็นของตน หรือหมู่คณะเป็นใหญ่ เพราะเหตุว่าบางท่านต้องการให้ตนเป็นที่รัก ต้องการให้หมู่คณะเป็นที่รัก หรือต้องการให้ตนเป็นที่รักที่พอใจของบุคคลอื่น แต่ไม่ได้คำนึงถึงพระธรรมว่า แท้ที่จริงแล้วพระธรรมต้องเป็นใหญ่ แม้ว่าตนจะไม่ได้เป็นที่รักของบุคคลใด หมู่คณะใดก็ตาม แต่ว่าการศึกษาการแสดงธรรมนั้นควรให้ถูกต้องตรงตามพระธรรม ไม่ใช่คิดถึงตนหรือหมู่คณะเป็นใหญ่


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 47


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ