สิ่งใดไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงละสิ่งนั้นเสีย
พระผู้มีพระภาคตรัสกับพระภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมบัญญัติทุกข์และความดับทุกข์ ทั้งในกาลก่อน และในกาลบัดนี้
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าบุคคลเหล่าอื่นย่อมด่า ย่อมบริภาษ ย่อมโกรธ ย่อมเบียดเบียน ย่อมกระทบกระเทียบตถาคต ในการประกาศสัจจะ ๔ ประการนั้น ตถาคตก็ไม่มีความอาฆาต ไม่มีความโทมนัส ไม่มีจิตยินร้าย
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าชนเหล่าอื่นย่อมสักการะ ย่อมเคารพ ย่อมนับถือ ย่อมบูชาตถาคต ในการประกาศสัจจะ ๔ ประการนั้น ตถาคตก็ไม่มีความยินดี ไม่มีความโสมนัส ไม่มีใจเย่อหยิ่ง ในปัจจัยทั้งหลาย มีสักการะเป็นต้นนั้น
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าชนเหล่าอื่นย่อมสักการะ ย่อมเคารพ ย่อมนับถือ ย่อมบูชาตถาคต ในการประกาศสัจจะ ๔ ประการนั้น ตถาคตมีความดำริอย่างนี้ ในปัจจัยทั้งหลาย มีสักการะเป็นต้นนั้นว่า สักการะเห็นปานนี้บุคคลกระทำแก่เรา ในขันธปัญจกที่เรากำหนดรู้แล้วในกาลก่อน
ซึ่งในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสโอวาทพระภิกษุทั้งหลายว่า แม้ภิกษุก็ควรเป็นเช่นเดียวกับพระองค์ด้วย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย แม้ถ้าว่า ชนเหล่าอื่นพึงด่า พึงบริภาษ พึงโกรธ พึงเบียดเบียน พึงกระทบกระเทียบท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายไม่พึงกระทำความอาฆาต ไม่พึงกระทำความโทมนัส ไม่พึงกระทำความไม่ชอบใจในชนเหล่าอื่นนั้น
เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย แม้ถ้าว่า ชนเหล่าอื่นพึงสักการะ พึงเคารพนับถือ พึงบูชาท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายไม่พึงกระทำความโสมนัส ไม่พึงกระทำความเย่อหยิ่งแห่งใจ ในปัจจัยทั้งหลาย มีสักการะเป็นต้นนั้น
ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงละสิ่งนั้นเสีย สิ่งนั้นท่านทั้งหลายละได้แล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ท่านทั้งหลายสิ้นกาลนาน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเล่า ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย
รูป ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงละรูปนั้นเสีย รูปนั้นท่านทั้งหลายละได้แล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน
ต่อไปก็เป็นข้อความโดยนัยเดียวกัน คือ
เวทนา ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย
สัญญา ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย
สังขาร ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย
วิญญาณ ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย
และข้อความต่อไป พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้น เป็นไฉน
ชนพึงนำไป พึงเผา หรือพึงกระทำหญ้า ไม้ กิ่งไม้ และใบไม้ ในพระวิหารเชตวันนี้ ตามความปรารถนา
ท่านทั้งหลายพึงดำริอย่างนี้บ้างหรือหนอว่า ชนย่อมนำไป ย่อมเผา หรือย่อมกระทำเราทั้งหลาย ตามความปรารถนา
ซึ่งพระภิกษุทั้งหลายก็ได้กราบทูลว่า
ไม่เป็นได้เลย พระเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า
ข้อนั้น เป็นเพราะเหตุแห่งอะไร
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะว่านั้นไม่ใช่อัตตา หรือบริขารที่เนื่องด้วยอัตตาของข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
อย่างนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงละสิ่งนั้นเสีย
แล้วพระผู้มีพระภาค ก็ได้ตรัสซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า
รูปไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย เวทนาไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย สัญญาไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย สังขารไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย วิญญาณไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้น ก็ไม่พึงที่จะยึดถือว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนั้นเป็นตัวตน
สุ. เป็นความอดทนมากไหม
ถ. อดทน เป็นนามหรือเป็นรูป
สุ. อดทน เป็นนามหรือเป็นรูป พระพุทธเจ้าที่ยังไม่ปรินิพพาน มีนามมีรูปไหม มี และความอดทนเป็นคุณธรรม เมื่อเป็นคุณธรรม พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้มีคุณธรรม ทรงเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ มีอะไรสงสัยบ้างไหม
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...