บุคคลที่รู้สึกตัวกับบุคคลที่ไม่รู้สึกตัว
เพื่อประกอบความเข้าใจในการเจริญสติปัฏฐานในชีวิตประจำวัน ขอกล่าวถึง สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ทสพล วรรคที่ ๓
ในครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ครั้งนั้นเป็นเวลาเย็น ท่านพระภูมิชะออกจากที่เร้น เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้สนทนาปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร แล้วสนทนากันเรื่องกรรมตามความคิดเห็นของสมณพราหมณ์ต่างๆ ท่านพระอานนท์ได้ยินการสนทนาระหว่างท่านพระสารีบุตรกับท่านพระภูมิชะ ท่านพระอานนท์ก็ได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลถ้อยคำสนทนาของท่านพระสารีบุตรกับท่านพระภูมิชะเท่าที่มีมาแล้วทั้งหมดแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ตามที่ท่านพระสารีบุตรพยากรณ์นั้น ชื่อว่าพยากรณ์โดยชอบ แล้วพระผู้มีพระภาคก็ได้ทรงแสดงธรรมกับท่านพระอานนท์ว่า
บุคคลรู้สึกตัว ย่อมปรุงแต่งกายสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในให้เกิดขึ้นบ้าง บุคคลไม่รู้สึกตัว ก็ย่อมปรุงแต่งกายสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง
บุคคลรู้สึกตัว ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง บุคคลไม่รู้สึกตัว ก็ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง
บุคคลรู้สึกตัว ย่อมปรุงแต่งมโนสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง บุคคลไม่รู้สึกตัวก็ย่อมปรุงแต่งมโนสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง
ดูกร อานนท์ อวิชชาแทรกอยู่แล้วในธรรมเหล่านี้
ดูกร อานนท์ ก็เพราะอวิชชาดับด้วยสำรอกโดยไม่เหลือ กายซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นจึงไม่มี วาจาซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นจึงไม่มี ใจซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นจึงไม่มี
นี่แสดงถึงบุคคลที่รู้สึกตัวกับบุคคลที่ไม่รู้สึกตัว ปกติเป็นบุคคลไหนมาก บุคคลไม่รู้สึกตัว เพราะฉะนั้น ขอให้พิจารณาพยัญชนะว่า บุคคลไม่รู้สึกตัวย่อมปรุงแต่งกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง จริงหรือไม่จริง
บุคคลผู้ไม่รู้สึกตัว ที่เคยหลงลืมสติเป็นเวลานานมาก มีกายสังขารไหม มีการกระทำทางกายไหม มีวจีสังขาร คำพูดต่างๆ ที่ทำให้เกิดสุขเกิดทุกข์บ้างไหม มีใจที่ตรึกไปคิดไปทำให้เป็นสุขเป็นทุกข์เกิดขึ้นบ้างไหม นี่เป็นบุคคลผู้ไม่รู้สึกตัว
ส่วนบุคคลที่รู้สึกตัว ในพยัญชนะนี้กล่าวว่า
บุคคลรู้สึกตัว ย่อมปรุงแต่งกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขารซึ่งเป็นปัจจัยให้สุขและทุกข์อันเป็นภายในเกิดขึ้นบ้าง
ไม่ผิดปกติเลย พูดได้ คิดได้ ทำได้โดยเป็นผู้รู้สึกตัว ขณะพูด ผู้เจริญสติที่จะบรรลุคุณธรรมเป็นพระอริยบุคคลต้องมีสติระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปในขณะนั้นว่า เป็นเพียงลักษณะของนามและรูปที่เกิดขึ้นปรากฏตามเหตุปัจจัยเท่านั้น
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...