ตามสันนิษฐานของผม คิดว่านามที่เป็นโลภะไม่ต้องรู้
ตามสันนิษฐานของผม คิดว่านามที่เป็นโลภะไม่ต้องรู้
ถ. ตามสันนิษฐานของผม คิดว่านามที่เป็นโลภะไม่ต้องรู้ เพราะหัวข้อข้างต้นบอกว่า รู้เพียงกายานุปัสสนาอย่างเดียว ส่วนโลภะอาจจะเป็นธัมมานุปัสสนา ซึ่งธัมมานุปัสสนานี้ พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นของละเอียด สำหรับคนที่มีปัญญาสุขุมคัมภีรภาพจึงนำมาเจริญวิปัสสนาได้ แต่คนสมัยนี้ควรจะเจริญกายานุปัสสนา จึงสันนิษฐานว่า โลภะซึ่งเป็นนามชนิดหนึ่งของธัมมานุปัสสนาไม่ต้องรู้ก็ได้ ถ้ารู้กายานุปัสสนาจนถึงลักษณะเกิดดับแล้วก็รู้หมดเอง อุปมาเหมือนรับประทานเกลือหนึ่งเม็ดก็เค็มเหมือนกันหมดทั้งไห รู้หมดทุกๆ เม็ด
สุ. โลภะเกิดขึ้นไม่ต้องรู้ แล้วจะละการที่ยึดถือความเป็นตัวตนที่ยึดถือโลภะว่าเป็นตัวตนในขณะนั้นได้ไหม ในขณะที่กำลังเห็น หมดความสงสัยในลักษณะของนามและรูปหรือยัง ในขณะที่กำลังได้ยิน หมดความสงสัยในลักษณะของนามและรูปหรือยัง เพราะผู้ที่เจริญสติปัฏฐานนั้นเป็นผู้ที่ละความไม่รู้ ละความสงสัย ละการยึดถือนามรูปว่าเป็นตัวตน
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...