ในมหาสติปัฏฐานจะเห็นได้ว่า แต่ละบรรพก็ล้วนแต่เป็นโลก
ถ. ปฏิกูลมนสิการบรรพแสดงถึงอวัยวะต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในร่างกาย แสดงถึงความไม่สะอาดของอวัยวะเหล่านั้น ทีนี้การพิจารณา หรือเจริญสติปัฏฐานเพื่อจะรู้รูปของอวัยวะเหล่านั้น จะเจริญสติปัฏฐานไปในลักษณะใด จึงจะรู้ว่านี่คือรูป ถ้าจะเจริญในฐานะที่ว่า รูปเหล่านี้ไม่สะอาด กระผมก็รู้สึกว่า จะเป็นเรื่องคิดนึกมากไป ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายด้วย
สุ. ถ้าเข้าใจมหาสติปัฏฐานว่าปกติธรรมดา ผู้ที่ยังไม่ได้อบรมไม่ได้เจริญสติจนกระทั่งเป็นปกติแล้วก็เป็นผู้ที่หลงลืมสติ เพราะฉะนั้น ในมหาสติปัฏฐานจะเห็นได้ว่า ในแต่ละบรรพนั้นก็ล้วนแต่เป็นโลก เป็นเครื่องเตือนให้ระลึกเพื่อจะได้รู้ชัดในลักษณะของสิ่งที่สติกำลังระลึกได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังคิด กำลังนึก กำลังเป็นสุข กำลังเป็นทุกข์ กำลังมีจิตของคนอื่นเป็นอารมณ์ กำลังมีความรู้สึกของคนอื่นเป็นอารมณ์ กำลังมีรูปใดๆ ทั้งสิ้นที่เป็นของจริงที่มีปรากฏให้รู้ได้ ทั้งผม ทั้งขน ทั้งเล็บ ทั้งฟัน ทั้งหนัง
เพราะเหตุว่าบางท่านนั้นไม่สามารถที่จะพิจารณาธาตุโดยตรง ที่มีอยู่ที่กายได้ ที่กายนี้ ธาตุที่เป็นใหญ่เป็นประธานก็มี ๔ ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม แต่เพราะเหตุว่าไม่ระลึก แต่อาจจะเป็นผู้ที่ระลึกถึงความเป็นปฏิกูลของส่วนต่างๆ เสียก่อน แล้วจึงจะรู้ชัดในลักษณะของสิ่งนั้น โดยความเป็นธาตุอีกทีหนึ่ง
จับผม ก็ถูกแข็งๆ จับเล็บก็แข็งอีก แต่ก็ไม่ได้ระลึกรู้ในลักษณะที่แข็งนั้น แต่พอจิตระลึกถึงความเป็นปฏิกูลก่อน แล้วก็ระลึกรู้ลักษณะของความเป็นธาตุ
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...