พระธรรมที่ทรงแสดง มีอยู่ในพระไตรปิฎก
ประเสริฐที่จะให้ผู้ไม่รู้ภาษาบาลี สามารถศึกษาค้นคว้าเข้าใจพระธรรมในพระไตรปิฎกได้ แต่ก็จะต้องศึกษาจริงๆ จึงจะเข้าใจได้ถูกต้อง”
จากหนังสือ ..บทบาทของ ..อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ในการเผยแผ่พุทธธรรม โดย พระธนนาถ นิธิปญฺโญ
ธรรมมีจริงมีอยู่ในขณะนี้ แต่เราไม่รู้ว่าธรรมะ เพราะถูกอวิชชาปิดบังไม่ให้รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เราจึงต้องอาศัยการศึกษาธรรม เพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องปัญญาจึงจะเกิดค่ะ
พระไตรปิฎก คือ พระธรรมที่พระเจ้าทรงแสดง แต่ถึงพระพุทธเจ้าไม่ได้แสดงเอาไว้ ก็มีอยู่จริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เรื่อง ตรวจสอบกับพระธรรมและวินัยที่พระอค์ทรงแสดง
[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 293
ข้อความบางตอนจาก
มหาปรินิพพานสูตร
[๑๑๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย ข้อนี้ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้รับมาเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดาพวกเธอไม่พึงชื่นชม ไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น. ครั้นไม่ชื่นชม ไม่คัดค้านแล้วพึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดีแล้ว สอบสวนในพระสูตรเทียบเคียงในพระวินัย. ถ้าสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรไม่ได้ เทียบเคียงในพระวินัยไม่ได้. พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้ไม่ใช่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนี้จำมาผิดแล้วแน่นอน ดังนั้น พวกเธอพึงทิ้งคำกล่าวนั้นเสีย. ถ้าเมื่อสอบสวนในพระสูตรเทียบเคียงในพระวินัย ลงในพระสูตรได้ เทียบเคียงในพระวินัยได้. พึงถึงความตกลงใจในข้อนี้ว่า นี้คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น และภิกษุนี้จำมาถูกต้องแล้วแน่นอน ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงทรงจำมหาปเทสข้อที่หนึ่งนี้ไว้
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์