ธรรมที่พระผู้มีพระภาคบรรลุ เป็นธรรมลึก ยากที่จะเห็นได้

 
สารธรรม
วันที่  8 ต.ค. 2565
หมายเลข  44543
อ่าน  201

ธรรมที่พระผู้มีพระภาคบรรลุ เป็นธรรมลึก ยากที่จะเห็นได้

ขอกล่าวถึง พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคที่ได้ตรัสกับโพธิราชกุมาร ใน มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ โพธิราชกุมารสูตร ว่า

ดูกร ราชกุมาร อาตมาภาพนั้นได้มีความคิดเห็นว่า ธรรมที่เราบรรลุแล้วนี้ เป็นธรรมลึก ยากที่จะเห็นได้ สัตว์อื่นจะตรัสรู้ตามได้ยาก เป็นธรรมสงบระงับ ประณีต ไม่เป็นวิสัยที่จะหยั่งลงได้ด้วยความตรึก เป็นธรรมละเอียดอันบัณฑิตจะพึงรู้แจ้ง ก็หมู่สัตว์นี้มีความอาลัยเป็นที่รื่นรมย์ ยินดีในความอาลัย บันเทิงนักในความอาลัย ก็การที่หมู่สัตว์ผู้มีความอาลัยเป็นที่รื่นรมย์ ยินดีในความอาลัย บันเทิงนักในความอาลัย จะเห็นฐานะนี้ได้โดยยาก คือ สภาพที่อาศัยกันเกิดขึ้น เพราะความมีสิ่งนี้เป็นปัจจัย แม้ฐานะนี้ก็เห็นได้ยาก คือ สภาพเป็นที่ระงับสังขารทั้งปวง ความสละคืนอุปธิทั้งปวง ความสิ้นตัณหา ความปราศจากความกำหนัด ความดับโดยไม่เหลือ นิพพาน ก็เราจะพึงแสดงธรรม และสัตว์เหล่าอื่นก็จะไม่รู้ทั่วถึงธรรมของเรานั้น จะพึงเป็นความเหน็ดเหนื่อยเปล่า เป็นความลำบากเปล่าของเรา

ดูกร ราชกุมาร ทีนั้นคาถาอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยได้ฟังมาในกาลก่อน มาปรากฏแจ่มแจ้งกับอาตมาภาพว่า

บัดนี้ยังไม่สมควรจะประกาศธรรมที่เราบรรลุได้โดยยาก ธรรมนี้อันสัตว์ทั้งหลายผู้ถูกราคะ โทสะครอบงำ ไม่ตรัสรู้ได้ง่าย สัตว์ทั้งหลายอันราคะย้อมแล้ว อันกองมืดหุ้มห่อแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันยังสัตว์ให้ไปทวนกระแส ละเอียดลึกซึ้ง เห็นได้ยาก เป็นอณู ดังนี้

ดูกร ราชกุมาร เมื่ออาตมาภาพเห็นตระหนักอยู่ดังนี้ จิตของอาตมาภาพ ก็น้อมไปเพื่อความเป็นผู้มีความขวนขวายน้อย ไม่น้อมไปเพื่อแสดงธรรม

นามและรูปที่กำลังปรากฏเป็นปกติในขณะนี้ เป็นธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง ในพระไตรปิฎก ทั้งพระวินัยปิฎก ทั้งพระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก สอบทานได้ว่า ไม่ใช่เรื่องอื่นเลย นอกจากเรื่องธรรมที่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน

การเห็นเป็นธรรมดา ทำไมทรงแสดงไว้เรื่องของการเห็น เรื่องของสี รูปารมณ์ที่ปรากฏให้รู้ได้ทางตา เรื่องของสภาพที่รู้อารมณ์ทางตา การได้ยินมีอยู่ทุกวันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน

ธรรมที่ทรงแสดง ไม่ได้ทรงแสดงเรื่องอื่นที่สัตว์โลกจะพิสูจน์ไม่ได้ แต่ว่าทรงแสดงธรรมที่ปรากฏเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ลึกซึ้งละเอียดยากที่จะรู้ได้ในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลของธรรมทั้งปวง ที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

และการปฏิบัติธรรม ก็ไม่ใช่ปฏิบัติผิดไปจากการระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมที่เกิดปรากฏเป็นปกติในชีวิตประจำวันนั่นเอง เป็นเรื่องปกติธรรมดา การเจริญสติเพื่อรู้สภาพธรรมที่ลึกซึ้ง ที่กำลังเกิดขึ้น และกำลังดับไป แต่ว่ายาก เพราะเป็นการทวนกระแสความต้องการ คือ โลภะ เพราะความต้องการชักพาทำให้วนไปโน่นบ้าง นี่บ้างตลอดเวลา ไม่ทำให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้

ดังนั้นหนทางเดียวจริงๆ ที่ละตัณหา ที่ละความต้องการในนามในรูปทั้งปวงได้ ก็คือสติเกิดขึ้นทันที ไม่เลือกว่าอยู่ในสถานที่ใด ไม่เลือกว่าขณะไหน ไม่เลือกอารมณ์ใด เพราะทรงแสดงไว้ว่า เอกายนมรรค คือ สติปัฏฐาน การเจริญสติเท่านั้นที่จะทำให้ปัญญาเริ่มรู้ลักษณะสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตนมากขึ้น เพิ่มขึ้น


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 146

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 147


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ