ไม่ได้ห้ามการนึกคิด

 
สารธรรม
วันที่  8 ต.ค. 2565
หมายเลข  44549
อ่าน  206

. ได้ฟังท่านอาจารย์บรรยายทางวิทยุ มีข้อความตอนหนึ่งว่า ผู้ฟังจะต้องพิจารณาด้วยความแยบคายว่า ท่านได้เจริญข้อประพฤติปฏิบัติถูกต้องอย่างนี้หรือเปล่า คือ สติระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง รู้ว่าขณะนี้สติกำลังระลึกสภาพที่เป็นนามธรรมหรือว่าสภาพที่เป็นรูปธรรม ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือทางใจ โดยที่ไม่ต้องเอ่ยชื่อ คือ ไม่ต้องนึกว่า ขณะนี้กำลังระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมทางตา หรือขณะนี้กำลังระลึกรู้ลักษณะของรูปธรรมทางหู ไม่ต้องเอ่ยชื่อ ไม่ต้องนึกอย่างนี้ ที่ว่าไม่ต้องเอ่ยชื่อ ไม่ต้องนึกอย่างนี้ ผมสงสัยที่จะไม่ให้ระลึกชื่อทางตาหรือทางหู ไม่ให้เอ่ยชื่อนั้น แล้วจะให้ระลึกรู้อย่างไร

สุ. การนึกคิดห้ามไม่ได้ แต่ท่านผู้ฟังจะต้องสังเกต สำเหนียก ในขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมทางหนึ่งทางใดว่า เป็นสภาพธรรมที่ต่างกัน อย่างขณะที่กำลังเห็น ไม่ต้องคิดอะไรเลย ไม่ต้องนึกเป็นชื่อเป็นคำออกมาว่า ที่กำลังเห็นนี้เป็นสภาพรู้ทางตา คือ ไม่ต้องนึกอย่างนี้ก็มีเห็น

เวลาที่นึกว่า กำลังเห็นนี้เป็นสภาพรู้ทางตา ในขณะนั้นสติไม่ได้ระลึกที่สภาพรู้ทางตา แต่สติจะต้องรู้ว่า ที่คิดนั้นก็เป็นนามธรรมอีกชนิดหนึ่ง ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แต่เป็นนามธรรมต่างชนิดกัน การเห็นกับความคิดนึกไม่เหมือนกัน และถ้าระลึกว่า สิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้เป็นของจริง เป็นรูปธรรม ก็เพราะเหตุว่าสามารถปรากฏให้เห็นได้ ให้รู้ได้ทางตา

ถ้าระลึกรู้ลักษณะที่เป็นรูปธรรม กับการนึกขึ้นมาว่า ที่กำลังปรากฏในขณะนี้เป็นของจริงที่ปรากฏทางตา ถ้าระลึกอย่างนี้ สติก็จะต้องสำเหนียก สังเกต รู้ว่า ขณะนั้นเป็นสภาพนามธรรมที่คิด ไม่ใช่ระลึกรู้สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเท่านั้น

แต่ไม่ใช่ห้ามคิด ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานจะต้องฟังเรื่องของการเจริญสติปัฏ-ฐานให้เข้าใจละเอียดชัดเจนพอที่ว่า เมื่อสติระลึกแล้วก็จะได้ชินกับสภาพธรรมที่กำลังปรากฏชัดเจนถูกต้องขึ้นว่า ขณะนั้นเป็นนามอะไร เป็นรูปอะไร ที่คิดก็เป็นนามธรรมชนิดหนึ่งแต่ไม่ใช่เห็น เพราะถ้ากำลังเห็น ถึงไม่ต้องคิดสภาพที่เห็นก็มี


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 147


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ