การเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติเจริญอย่างไร
การเจริญสติปัฏฐาน เจริญเป็นปกติ แล้วปกติของปุถุชนที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลนั้น มีใครยับยั้งโลภะ โทสะ โมหะ ได้ไหม ถ้าเป็นการเจริญสมาธิที่เป็น สมถภาวนา ผู้นั้นก็ระงับไว้ ยับยั้งไว้ด้วยนัยวิธีต่างๆ แต่ความเป็นตัวตนที่ยับยั้งที่ระงับที่สงบนั้น ไม่รู้เลยว่า เป็นสภาพของนามธรรมและรูปธรรมที่อาศัยเหตุปัจจัยของความสงบ ทำให้สงบระงับกิเลสอกุศลต่างๆ ไว้เพียงชั่วคราว แต่ผู้ที่เจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่เจริญอย่างสมถภาวนา สติเป็นสภาพที่ระลึก เมื่ออาศัยการฟังเข้าใจแล้ว สติก็เกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของรูปบ้าง ระลึกรู้ลักษณะของนามบ้าง ทีละเล็กทีละน้อยตามปกติที่ท่านได้สะสมมาแต่ละบุคคล เมื่อมีปัจจัยของโทสะ โทสะก็เกิด โลภะประเภทใดอาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น สติระลึกรู้ได้ขณะใด สติก็เกิดขึ้นระลึกรู้ในขณะนั้น
ถ้าท่านศึกษาในพระสูตร จะเห็นว่า ผู้ที่บรรลุอริยสัจธรรมในขณะที่ได้ฟัง ธรรม และพระธรรมที่ทรงแสดง ไม่ใช่เรื่องของมหาสติปัฏฐานก็มี เป็นเรื่องภัยของวัฏฏะ เพราะฉะนั้น ถ้าท่านเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ท่านจะไม่สงสัยว่า การเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติเจริญอย่างไร ผล คือ รู้ชัดในสภาพธรรมตามปกติละเอียดขึ้น ชัดเจนขึ้นตามความเป็นจริง และการฟังธรรมนั้นจะมีประโยชน์มากสักเพียงใด ท่านก็สามารถที่จะรู้ได้
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ นันทโกวาทสูตร มีข้อความบางประการในตอนท้ายว่า
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระวิหารเชตวัน เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสให้ท่านพระนันทกะแสดงธรรมกถาแก่พวกภิกษุณี ท่านพระนันทกะก็ได้แสดงธรรมเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่เที่ยง รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ไม่เที่ยง จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ ไม่เที่ยง พร้อมด้วยอุปมาที่ไพเราะซึ่งเป็นอุปมาเรื่องของอายตนะภายใน อายตนะภายนอก ไม่เที่ยง เวทนาที่อาศัยปัจจัยเกิดขึ้นก็ไม่เที่ยง
ท่านพระนันทกะจะแสดงธรรมกถาเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ได้ไหม มีธรรมอื่นไหม พ้นไปได้ไหม และใครบ้างที่ชีวิตปกติประจำวันไม่ใช่เรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่สัมผัสและคิดนึก สุข ทุกข์ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เพราะฉะนั้น พระธรรมเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน และสาวกที่รู้แจ้งก็แทงตลอดในสภาพธรรมที่เป็นปกติในชีวิตประจำวันนี้ได้ คนที่คิดว่า รู้ไม่ได้นั้น ไม่ใช่พระอริยบุคคลแน่นอน
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...