แต่ละบุคคลเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติ
สุ. พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งหนทางข้อปฏิบัติ ซึ่งสะสมมาที่จะเป็นแต่ละบุคคลต่างๆ กัน กรรมจำแนกให้เป็นพระเจ้าแผ่นดินบ้าง เป็นมหาอำมาตย์บ้าง เป็นทาส เป็นกรรมกรบ้าง ไม่มีใครไปเปลี่ยนจิตใจของแต่ละคนที่ได้สะสมมาที่จะคิดนึกต่างๆ กันได้ เพราะฉะนั้น การเจริญสติปัฏฐานไม่ใช่ว่าเข้าไปอยู่ในสถานที่เดียวกัน เวลาจะเปลี่ยนอิริยาบถก็คิดเหมือนกันอีก นั่นไม่ทำให้รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงของแต่ละคน เพราะจิตของแต่ละคนวิจิตรมาก การที่จิตของใครจะคิดนึก จะทำกุศลกรรมอกุศลกรรมอย่างไร ก็แล้วแต่การสะสมมา นอกจากนั้นผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว ทำให้วิบากจิตจะต้องเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น สุขบ้าง ทุกข์บ้างอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลจะต้องรับ
เพราะฉะนั้น แต่ละบุคคลจึงเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติ คนที่ไม่สบายเจ็บป่วยจะอยู่ที่ไหนก็ได้ เจริญสติปัฏฐานได้ไหม ในพระไตรปิฎกทรงแสดงธรรมให้บุคคลนั้นเจริญสติปัฏฐาน แม้คนเจ็บป่วยก็ยังเจริญสติปัฏฐานได้ ถ้าท่านผู้ใดเกิดทุกขเวทนากล้าในขณะนี้ เจ็บป่วยกระทันหัน ถ้าท่านเคยฟังการเจริญสติ เป็นปัจจัยให้สติของท่านเกิด เมื่อคนเจ็บยังควรเจริญสติปัฏฐาน แล้วคนดีๆ ทำไมถึงจะห้ามไม่ให้เจริญสติปัฏฐาน ให้เจริญแต่เฉพาะคนเจ็บคนป่วยหรือ คนดีๆ เจริญไม่ได้ต้องไปที่อื่นถึงจะเจริญสติปัฏฐานได้ อย่างนั้นจะถูกไหม เหตุต้องตรงกับผล
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...