พวกเดียรถีย์ใคร่ที่จะให้พระผู้มีพระภาคเสื่อมจากลาภ ยศ สักการะ
สารัตถปกาสินี อรรถกถาสังยุตตนิกาย มีข้อความอธิบายว่า
ครั้งนั้น ในปฐมโพธิกาล ลาภสักการะเกิดแก่พระผู้มีพระภาคและพระภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก พวกเดียรถีย์จึงกล่าวว่า
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า พึงให้ทานแก่เราเท่านั้น แก่สาวกของพระผู้มีพระภาคเท่านั้น ทานที่ให้แก่พระผู้มีพระภาคมีผลมาก ให้แก่ผู้อื่นมีผลไม่มาก ให้แก่สาวกของพระผู้มีพระภาคมีผลมาก ให้แก่ผู้อื่นมีผลไม่มาก
นี่เป็นความริษยา ซึ่งพวกเดียรถีย์ใคร่ที่จะให้พระผู้มีพระภาคเสื่อมจากลาภ ยศ สักการะ
แต่ว่าความเป็นไปแห่งวาทะ พร้อมทั้งเหตุอันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว ย่อมไม่มาถึงเหตุที่ควรติเตียนอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ว่าความเป็นไปแห่งวาทะ พร้อมทั้งเหตุอันชนเหล่าอื่นกล่าวแล้ว ย่อมมาถึงเหตุที่ควรติเตียนอย่างใดอย่างหนึ่ง
ในครั้งนั้น ผู้คนที่ได้ฟังพวกเดียรถีย์กล่าวอย่างนั้น ก็เที่ยวถามกันว่า พระผู้มีพระภาคตรัสเช่นนั้นหรือ ข้อความนั้นจริงแหละหรือ พระสมณโคดมทำสิ่งที่ไม่สมควร เป็นอันตรายแก่ปัจจัยของผู้อื่นที่อาศัยภิกขาจารเป็นอยู่
ข้อความนี้ก็ได้แพร่กระจายไปถึงราชสกุล พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสดับแล้ว ทรงดำริว่า การที่พระตถาคตจะพึงทำอันตรายลาภของผู้อื่น เป็นอฐานะ เดียรถีย์เหล่านั้นกระเสือกกระสน เพื่อเสื่อมลาภ เสื่อมยศ แห่งพระตถาคต
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงดำริว่า เมื่อพระองค์ยังอยู่ในที่นี้ พวกเดียรถีย์ทั้งหลายอย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลย พระศาสดาย่อมไม่ตรัสเช่นนั้น ถ้อยคำนั้นไม่พึงเป็นไปโดยกำหนดเอาเอง พระองค์จักให้ข้อความนั้นระงับลงในเวลาประชุมชน แล้วพระองค์ก็ประกาศให้ประชาชนไปยังพระวิหารในวันที่พระองค์เสด็จไปเพื่อถามปัญหานี้
ซึ่งเมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสถามปัญหา ข้อความในพระไตรปิฎกมีว่า
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานบุคคลพึงให้ในที่ไหนหนอแล
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรมหาบพิตร จิตย่อมเลื่อมใสในที่ใด พึงให้ในที่นั้นแล
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ได้ทอดพระเนตรดูมนุษย์ทั้งหลายที่นำวาทะของเดียรถีย์มากล่าว เพียงพระเจ้าปเสนทิโกศลทอดพระเนตรดูเท่านั้น มนุษย์เหล่านั้นก็เก้อเขิน ก้มหน้าเอาปลายนิ้วเท้าขุดดิน
เป็นอันว่าพวกเดียรถีย์ทั้งหลายถูกกำจัดเสียแล้วด้วยบทเพียงบทเดียว คือ ด้วยพระดำรัสที่ว่า จิตย่อมเลื่อมใสในที่ใด พึงให้ในที่นั้นแล
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้กราบทูลถามต่อไปว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แล้วทานที่ให้แล้วในที่ไหน จึงมีผลมาก
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร มหาบพิตร ทานพึงให้ในที่ไหน นั่นเป็นข้อหนึ่ง และทานที่ให้แล้วในที่ไหนจึงมีผลมาก นั่นเป็นอีกข้อหนึ่ง
ดูกร มหาบพิตร ทานที่ให้แล้วแก่ผู้มีศีลแล มีผลมาก ทานที่ให้แล้วในผู้ทุศีล หามีผลมากไม่
ไม่ได้ทรงห้ามการให้ทานแก่บุคคลอื่นเลย แต่เหตุอย่างใดจะให้ผลอย่างไร ก็ทรงแสดงตามความเป็นจริงว่า ถ้าเหตุอย่างนั้นจริง ผลก็มากอย่างนั้นจริง เหตุคือ จิตใจของท่านในขณะนั้นบริสุทธิ์มากน้อยเท่าไร ก็นำมาซึ่งผลมากน้อยเท่านั้น ถ้าจิตท่านบริสุทธิ์มาก มีความเข้าใจถูกรู้ว่า สิ่งใดเป็นธรรม เป็นวินัย ทะนุบำรุงผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ จึงจะมีผลมาก
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...