สติระลึกรู้รูปธรรม นามธรรมทางใจ

 
ทรงศักดิ์
วันที่  20 ต.ค. 2565
หมายเลข  44792
อ่าน  420

สติระลึกรู้สภาพธรรมทางตาคือระลึกรู้รูปสีหรือนามเห็น

ระลึกทางหูก็เป็นรูปเสียงหรือนามได้ยิน

หากสติระลึกรู้ทางใจจะรู้รูปอะไร นามอะไรบ้างครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 21 ต.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สติปัฏฐานเป็นการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตรงตามความเป็นจริง

ที่พอจะเข้าใจตามการศึกษาเป็นเบื้องต้น คือ สติปัฏฐาน เกิดได้ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ คือ ทางมโนทวาร

ยกตัวอย่าง สติปัฏฐานเกิดทางตา จะเห็นได้ว่า ทุกขณะของวิถีจิตทางตา จะมีสี เป็นอารมณ์ เท่านั้น ถ้าอบรมเจริญปัญญามาพอ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม สติปัฏฐานก็สามารถเกิดเกิดระลึกรู้ลักษณะของสีที่กำลังปรากฏในขณะนั้นได้ โดยเกิดในขณะที่เป็นชวนจิตทางตา ซึ่งระลึกรู้ในขณะนั้นว่า สี เป็นแต่เพียงธรรมอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เรา เพราะเหตุว่า สีที่เป็นอารมณ์ของวิถีจิตทางตา ยังไม่ได้ดับไป กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาที่เป็นสติปัฏฐานก็สามารถเกิดระลึกรู้ลักษณะของสี ที่ยังไม่ได้ดับไป ได้ นี้ คือ ตัวอย่าง สติปัฏฐานที่เกิดทางตา ต้องระลึกรู้สี เท่านั้น

แต่ จากประเด็นคำถาม ที่ว่า
"สติระลึกรู้สภาพธรรมทางตาคือระลึกรู้รูปสีหรือนามเห็น
ระลึกทางหูก็เป็นรูปเสียงหรือนามได้ยิน" นั้น เป็นการกล่าวถึง ตัวสภาพธรรม ที่สามารถเป็นที่ตั้งของสติปัฏฐานได้ เพราะสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรม และ นามธรรม ก็เป็นอารมณ์ของสติปัฏฐานได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นสติปัฏฐาน ที่เกิดทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น และทางกาย ก็ต้องรู้สภาพธรรมที่เป็นรูป เท่านั้น ตามควรแก่ทวารของตน

ส่วนสำหรับประเด็นคำถามสุดท้ายที่ว่า "หากสติระลึกรู้ทางใจจะรู้รูปอะไร นามอะไรบ้าง" คำตอบ คือ รู้ได้ทั้งสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรมที่เกิดสืบต่อจากทวารทั้ง ๖ ที่ยังปรากฏลักษณะให้รู้ได้ หรือ รูปธรรมอื่นๆ ที่ไม่ได้ปรากฏทางทวารทั้ง ๕ และ รู้สภาพธรรมที่เป็นนามธรรม คือ จิต และเจตสิก ได้ ตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น สำคัญที่สุดคือรากฐานที่มั่นคงจากการได้ฟังและมีความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ครับ

ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ยกตัวอย่าง ระลึกรู้สภาพธรรมที่มีจริงทางตา ดังนี้

ขอยกตัวอย่างทางตาในขณะนี้ เพื่อที่จะได้รู้ว่า ถ้าสติจะระลึก จะระลึกอย่างไร ถ้าระลึกลักษณะของนามธรรม ก็รู้ว่า ขณะที่กำลังเห็น เป็นอาการรู้ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นสีสันที่กำลังปรากฏ ซึ่งลักษณะของอาการรู้ สภาพรู้ ธาตุรู้ ไม่มีรูปร่างสัณฐานใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ต้องน้อมไปที่จะเข้าใจจริงๆ ว่า อาการรู้นี้ มี แต่ไม่ใช่สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นสีสัน ซึ่งขณะนั้นเริ่มน้อมไปที่จะรู้ว่า ธาตุรู้ ลักษณะรู้ คือ ขณะที่กำลังเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาในขณะนี้เอง

นี่คือ การระลึกลักษณะของนามธรรมทางตา

ถ้าจะระลึกลักษณะของรูปธรรมทางตา ก็รู้ว่า ในขณะนี้ ที่เคยเข้าใจว่าเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง มิตรสหาย สิ่งหนึ่งสิ่งใด แท้ที่จริงแล้ว ขณะนั้นคิด ถ้าหยุดคิด จะมีแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาจริงๆ ไม่เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่ปรากฏได้ทางตาเท่านั้น


...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ทรงศักดิ์
วันที่ 22 ต.ค. 2565

สติปัฏฐานที่เกิดในขณะที่เป็นชวนจิตรู้ลักษณะของรูปธรรมในจักขุทวารวิถีจิตเดียวกัน จะเกิดได้ต้องอบรมเจริญสติมามากจนสติและปัญญาสามารถเกิดได้รวดเร็ว

แต่ โดยทั่วไปแล้วสติที่เกิดจะเป็นสติปัฏฐานที่เกิดขึ้นในชวนะขณะทาง มโนทวารวิถีที่เกิดต่อจากทวารวิถีทั้ง ๕ ซึ่งสามารถระลึกรู้ทั้งรูปธรรมและนามธรรม ได้

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 22 ต.ค. 2565

ยินดีในกุศลของคุณทรงศักดิ์และทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ต.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ