ศีลสังวรกับอินทรีย์สังวร
ถ. มีปัญหาว่า คนที่จะมีอินทรีย์สังวร ไม่ควรจะละเลยศีลสังวรด้วย โรงเหล้าก็ดี ไนท์คลับก็ดี เราถือว่าเป็นที่อโคจร ควรจะมีศีลสังวรด้วยเพื่ออุปการะในการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ไม่ใช่ว่าเจริญสติปัฏฐาน ๔ ไปไหนๆ ก็ได้ ไปไนท์คลับก็ได้ ไปตามที่ที่เป็นอโคจร ที่ไม่สมควรแก่สมณะ ไม่สมควรแก่ความสงบ เราก็ไม่ควรไป ผมเข้าใจอย่างนี้ แต่เคยสนทนาเป็นส่วนตัวกับอาจารย์ อาจารย์บอกว่า ที่ไนท์คลับก็เจริญสติปัฏฐาน ๔ ได้ ถ้าเหตุการณ์จริงๆ เกิดขึ้นมา ผมไปไนท์คลับแล้วจะเจริญสติปัฏฐาน ๔ ด้วย นี่เห็นจะลำบาก หรืออาจจะง่ายกับบางคนที่มีอินทรีย์แก่กล้า เป็นพละแล้ว แต่ถ้าเราพูดไม่เป็นหลักทั่วไป เกรงว่าคนใดคนหนึ่งที่เขาจะโจมตีทางนี้จะไปโพนทนาว่า สติปัฏฐาน ๔ ไปไนท์คลับก็ได้ ไปที่ไหนๆ ก็ได้
ผมคิดว่า ควรจะมีคำว่า ศีลสังวรกับอินทรีย์สังวรควรคู่กันไป เว้นแต่มีข้อยกเว้นบ้าง คือ เว้นที่เราจำเป็นจะต้องไป ขัดไม่ได้ เพื่อนชวนไปไนท์คลับคืนนี้ เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปตลอด ๖ ชั่วโมงในไนต์คลับ เราควรมีสติเกิดขึ้นเสียบ้าง อย่างนี้ผมว่าน่าจะเป็นทางสายกลางพอสมควรแก่ศีลสังวรและอินทรีย์สังวร ไม่ขัดกัน อาจารย์จะว่าอย่างไร โปรดกรุณาด้วย
สุ. มีศีลกันคนละเท่าไร เหมือนกันหมด เท่ากันหมด หรือต่างกันเป็นเพศของบรรพชิตและเพศของฆราวาส แต่เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ
ผู้ที่เป็นฆราวาสมีศีลเท่าไร ถ้าศีล ๒๒๗ ไปโน่นไม่ได้ ไปนี่ไม่ได้ เป็นสถานที่ที่ไม่ควรไป ตัวอย่างในพระไตรปิฎก ท่านไม่ได้มีเจตนาที่จะไปดูหญิงฟ้อนรำ ท่านเที่ยวบิณฑบาตในพระนคร แล้วในพระนครขณะนั้นมีหญิงฟ้อนรำ
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...