วิบากจิตทำกิจปฏิสนธิ

 
lokiya
วันที่  27 ต.ค. 2565
หมายเลข  44891
อ่าน  340

อยากทราบว่าวิบากจิตดังกล่าวนั้นหมายถึง การเห็น การได้ยิน การลิ้มรส ความทุกข์ทางกาย สุขทางกาย หรือไม่?


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 29 ต.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทำสัมผัสกาย ไม่ได้ทำกิจปฏิสนธิ เพราะเหตุว่าจิตที่ทำปฏิสนธิกิจ ได้แก่ วิบากจิต ๑๙ ดวง คือ

กามาวจรวิบาก ๑๐ ดวง

รูปาวจรวิบาก ๕ ดวง

อรูปาวจรวิบาก ๔ ดวง

คำบรรยายของอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในเรื่องนี้ มีดังนี้

สำหรับการฟังพระธรรมนั้น ควรที่จะพิจารณาให้เข้าใจจริงๆ โดยตลอด โดยหลายนัย ไม่ใช่ฟังแล้วก็ผ่านไป คนที่จะเข้าใจสภาพธรรมได้จริงๆ คือ ฟัง และคิด พิจารณา เช่น เมื่อทราบจิต ๘๙ ดวงนั้น จิตที่ทำปฏิสนธิกิจมี ๑๙ ดวง คือ

อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต ๑ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔ ภูมิ อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ๑ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในมนุษย์และสวรรค์ชั้นต้น คือชั้นจาตุมหาราชิกา โดยเป็นผู้ที่พิการตั้งแต่กำเนิด

กามาวจรวิบากจิตหรือมหาวิบากจิต ๘ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในกามสุคติภูมิ ๗ ภูมิ คือ มนุษย์ ๑ ภูมิ สวรรค์ ๖ ภูมิ สำหรับผู้ที่ไม่พิการตั้งแต่กำเนิด

รูปาวจรวิบากจิต ๕ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในรูปพรหม ๑๕ ภูมิ

รูปพรหมภูมิทั้งหมดมี ๑๖ ภูมิ แต่รูปพรหมภูมิที่มีขันธ์ ๕ มี ๑๕ ภูมิ และ รูปพรหมภูมิที่ไม่มีนามขันธ์ ไม่มีจิตเจตสิกเกิดเลยมี ๑ ภูมิ คือ อสัญญสัตตาพรหม เพราะฉะนั้น รูปาวจรวิบากจิต ๕ ดวง ทำกิจปฏิสนธิเฉพาะในรูปพรหมภูมิ ๑๕ ภูมิ

และอรูปาวจรวิบากจิต ๔ ดวง ทำกิจปฏิสนธิในอรูปพรหม ๔ ภูมิ

รวมเป็นจิต ๑๙ ดวง ทำกิจปฏิสนธิใน ๓๐ ภูมิ และรูปปัญจมฌานกุศลจิต เป็นปัจจัยให้รูปปฏิสนธิในอสัญญาสัตตาพรหม ๑ ภูมิ



...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ต.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
lokiya
วันที่ 29 ต.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ