การปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ความเป็น อริยบุคคล
การปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ความเป็นพระอริยบุคคลในแต่ละขั้นนั้น ใช้หลักปฏิบัติในโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ รวมทั้งสมถะกรรมฐานและวิปัสสนา เหมือนกันใช่รึเปล่าครับ คือสมมติถ้าได้บรรลุพระโสดาบัน เราจะปฏิบัติธรรมเพื่อเลื่อนภูมิธรรมต่อ ก็ปฏิบัติแบบเดิมพิจารณาหลักธรรมเดิม แต่พิจารณาให้ละเอียดขึ้น ปฏิบัติให้มากขึ้น ใช่มั้ยครับ หรือว่ามีความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละขั้นในการปฏิบัติเพื่อเป็นอริยบุคคลอย่างไรครับ
การอบรมเจริญปัญญา เพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระอริยบุคคลในแต่ละขั้นนั้น หลักในการอบรมไม่พ้นจากโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ แม้การอบรมเจริญปัญญาเพื่อการบรรลุคุณธรรมสูงยิ่งๆ ขึ้นไป ก็อบรมอย่างเดียวกัน แต่กำลังของปัญญาคมกล้ามากยิ่งขึ้น จึงดับกิเลสที่ละเอียดที่ปัญญาในมรรคขั้นต้นยังดับไม่ได้ ดังนั้น จะเห็นตัวอย่างในพระสูตรทั้งหลายว่า พระพุทธองค์แสดงธรรมอย่างเดียวกัน บางท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์ บางท่านเป็นพระอนาคามี บางท่านเป็นพระสกทาคามี บางท่านเป็นพระโสดาบัน บางท่านเพียงถึงสรณะคมณ์เท่านั้น
ขอเชิญอ่านพระสูตรเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน ๔
เชิญคลิกอ่าน ... การเจริญสติปัฏฐาน ๔ [โกสลสูตร]
ขอนอบน้อมแด่พระัรัตนตรัย
ไม่ว่าการจะบรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นต้น คือเป็นพระโสดาบันหรือ สูงๆ ขึ้นไป ก็ต้องอบรมสติปัฏฐาน หรือโพธิปักขิยธรรม เพราะการบรรลุในแต่ละขั้นนั้น ก็ไม่พ้นการอบรมปัญญา ซึ่งก็มีหนทางเดียว คือ การเจริญสติปัฏฐาน ๔ ไม่ใช่ว่า เมื่อเป็นพระโสดาบันแล้ว จะเป็นพระสกทาคามี ก็อบรมวิธีอื่น แต่ก็หนทางเดิมนั่นแหละ แต่ปัญญาคมกล้าขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น การอบรมปัญญา จะเป็นพระโสดาบัน ก็อบรมสติปัฏฐาน ๔ คืออย่างไร คือ ระลึกสภาพธัมมะที่ปรากฏในขณะนี้ ว่าเป็นธรรม เมื่อปัญญาถึงระดับที่บรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว ถามว่า สติปัฏฐานจะไม่เกิดระลึกสภาพธัมมะเลยหรือ ก็ต้องเกิดระลึกสภาพธัมมะเป็นปกติ แม้เป็นพระโสดาบันแล้ว แต่ระดับปัญญาและความเข้าใจต่างกันครับ ดังนั้น ไม่ว่าจะพระอริยบุคคลระดับใด ก็ต้องอบรมปัญญา คือการเจริญสติปัฏฐานและโพธิปักขิยธรรมครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ขอให้เข้าใจขั้นการฟังก่อนว่า สติปัฏฐานคืออะไร ปัญญารู้อะไร และธรรมคือ อะไรเพราะนี่เป็นเบื้องต้น ของการจะอบรมปัญญาครับ
สนใจที่เหตุ ผลย่อมได้เมื่อเหตุถูก
ขอนอบน้อมแด่พระัรัตนตรัย
เรื่อง หนทางเดียว ไม่ว่าจะบรรลุขั้นไหน
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 394
ปฐมผลสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อทำให้แจ้งโสดาปัตติผล
[๑๖๓๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ การคบสัตบุรุษ ๑ การฟังสัทธรรม ๑ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ๑ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้วย่อมเป็นไป เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล.
จบปฐมผลสูตรที่ ๕
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 395
ทุติยผลสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อทำให้แจ้งสกทาคามิผล
[๑๖๓๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ...
จบทุติยผลสูตรที่ ๖ หมายเหตุ ธรรม ๔ ประการของสูตรนี้ ก็เหมือนกับสูตรแรก ข้างบนครับ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 395
ตติยผลสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อทำให้แจ้งอนาคามิผล
[๑๖๓๖] ... ย่อมเป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ...
จบตติยผลสูตรที่ ๗
จตุตถผลสูตร
เจริญธรรม ๔ ประการเพื่อทำให้แจ้งอรหัตตผล
[๑๖๓๗] ... ย่อมเป็นไปเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตตผล ...
จบจตุตถผลสูตรที่ (อบรมธรรม ๔ ประการเพื่อความเป็นพระอรหันต์ เหมือนสูตรแรกครับ) ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ไม่ว่าจะบรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นไหน ก็มีหนทางเดียวคือสติปัฏฐาน
ขออนุโมทนา