สัมมากัมมันตะต่างกับกายสุจริต3อย่างไรครับ
สัมมากัมมันตะ เป็นเจตสิก มีการวิรัติกายทุจริต 3 ส่วนกายสุจริต 3 ก็เป็นการละกายทุจริต3 เป็นกุศลจิตที่มีสัมมากัมมันตะเกิดร่วมหรือไม่อย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัมมากัมมันตะ คือ การงานชอบ โดยสภาพธรรมแล้ว คือ วิรตีเจตสิก ที่งดเว้นจากกายทุจริต ๓ ได้แก่ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ตามข้อความใน พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๒๙๐ ดังนี้
[๑๖๖] สัมมากัมมันตะ เป็นไฉน? ความงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ความงดเว้นจากการลักทรัพย์ ความงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม นี้เรียกว่า สัมมากัมมันตะ
สำหรับสุจริต ๓ ก็คือ การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม โดยสภาพธรรมก็ต้องมีวีรตีเจตสิก พร้อมด้วยสภาพธรรมอื่นๆ ที่เกิดพร้อมกันในขณะนั้น ตามข้อความใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ ๒๘๙ ดังนี้
เจตนาก็ดี วิรัติก็ดี ทั้ง ๓ อย่าง (งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม) ที่เกิดขึ้น แก่ผู้งดเว้น จากปาณาติบาต เป็นต้น
ชื่อว่า กายสุจริต
ดังนั้น พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีมาก แต่ก็ต้องมีตัวจริงของสภาพธรรม อย่างในประเด็นคำถาม ก็ทำให้พิจารณาได้ว่า ขณะที่เป็นกายสุจริต นั้น ก็เว้นจากกายทุจริต อย่างหนึ่งอย่างใด ขณะนั้น ก็เป็นกิจหน้าที่ของวิรตีเจตสิก คือ สัมมากัมมันตะเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ (พร้อมด้วยสภาพธรรมที่เกิดร่วมกัน) ความประพฤติ จึงเป็นความประพฤติที่ดีงามทางกาย (สุจริตทางกาย) และขณะนั้น ก็เป็นขณะที่โสภณธรรมเกิดขึ้นเป็นไป เป็นกุศลจิตที่มีสัมมากัมมันตะเจตสิกเกิดร่วมด้วย ทั้งหมด ก็คือ ธรรม นั่นแหละที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ในขณะนั้น ก็ค่อยๆ เข้าใจในความเป็นจริงของธรรมได้ ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
