ทะเลภาพ ทะเลชื่อ!
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ทะเลภาพ ทะเลชื่อ
ทะเลภาพ ทะเลชื่อ หมายถึง บัญญัติธรรมนั่นเองคือเป็นเพียงเรื่องราวที่คิดนึกอันเกิดจากปรมัตถธรรม เช่นขณะที่เห็นย่อมเห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น (สี) แต่เมื่อจิตทางมโนทวาร (ทางใจ วาระหลังๆ) รับต่อ ก็คิดนึกเป็นเรื่องราวเป็นรูปร่างสัณฐานของสิ่งนั้นว่าเป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เป็นคน เป็นสัตว์ จึงเป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ เป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งที่เพียงแค่เห็นสิ่งที่ปรากฎทางตาเท่านั้น และเมื่อคิดนึกเป็นเรื่องราวต่างๆ จิตก็ปรุงแต่ง ให้เป็นกุศลบ้างอกุศลบ้าง ในเรื่องราวที่คิดนึก จากการเห็น ได้ยิน ... เป็นต้น
พระอริยบุคคล ยังมีทะเลภาพ ทะเลชื่อไหม?
พระอริยบุคคล ทุกระดับ ดับความเห็นผิดว่ามีคน มีสัตว์ บุคคลจริงๆ เพราะท่านรู้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมเท่านั้น ที่ปรากฎทางตา หู ... ใจ แต่อย่างไรก็ตาม ท่านก็ยังเห็น เป็นสัตว์ บุคคลอยู่ จากการเห็น หรือได้ยิน และก็มีการคิดนึกต่อ เป็นคนนั้น คนนี้ สิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นทะเลภาพ ทะลชื่อ เช่นกัน แต่ท่านไม่ยึดถือว่ามีสัตว์บุคคล จริงๆ เพราะท่านดับกิเลสที่ยึดถือว่ามีสัตว์ บุคคล ตัวตนแล้ว (ดับความเห็นผิด) แต่พระอริยบุคคลที่ไม่ใช่พระอรหันต์ เมื่อคิดนึกเป็นเรื่องราวในสิ่งที่เห็น ได้ยิน ... เป็นต้น เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ ก็ยังเป็นอกุศลได้ แต่ไม่ใช่อกุศลที่ยึดถือว่า เป็นเรา เป็นสัตว์บุคคลตัวตนครับ ส่วนพระอรหันต์ แม้เห็น และคิดนึก เป็นเรื่องราว เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ แต่ก็ไม่เกิดอกุศลเลยครับ
เข้าใจทะเลภาพ ทะเลชื่อ เกื้อกูลการอบรมปัญญาคือสติปัฏฐานอย่างไร
เมื่อเข้าใจว่าทะเลภาพ ทะเลชื่อ เป็นเพียงเรื่องราวที่คิดนึก ก็ทำให้เข้าใจว่าต้องมีสิ่งที่ทำให้คิดนึก เช่น สิ่งที่ปรากฎทางตา มีจริง จึงทำให้คิดนึกเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฎทางตา คิดนึกเป็นเรื่องราว เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ หรือ เสียง ... ปรมัตถธรรมต่างๆ ที่มีจริง ทำให้มีทะเลภาพ ทะเลชื่อ ดังนั้น สิ่งที่มีจริง คือปรมัตถ์ (สภาพธัมมะที่มีจริง) ไม่ใช่บัญญัติ (ทะเลภาพ ทะเลชื่อ) เมื่อเข้าใจดังนี้ ก็รู้ว่าการจะรู้ความจริงว่าเป็นธรรม ก็ไม่ใช่จากทะเลภาพ ทะเลชื่อ แต่เป็นสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ครับ ที่ปัญญาต้องรู้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา และเมื่อเข้าใจขั้นการฟัง ก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้สติระลึก และแทนที่จะไม่รู้ความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ก็มีสติเกิดรู้ว่าจริงๆ แล้วมีแต่ธรรม การคิดนึกเรื่องราว ไม่ได้มีจริงเลย เป็นแต่เพียง ทะเลภาพ ทะเลชื่อ
แม้ที่ท่านทั้งหลาย เห็นอยู่ ก็คิดนึกเรื่องราว เป็นสิ่งต่างๆ เป็นบุคคลต่างๆ เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ ให้ไม่รู้ความจริงว่า เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา (สี) เท่านั้น ขอให้มั่นคงในหนทางการอบรมปัญญาว่า ระลึกรู้สิ่งที่มีจริง (ปรมัตถ์) ในขณะนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องราว เป็น ทะเลภาพ ทะเลชื่อ
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ตราบใดที่เรายังไม่ได้อบรมเจริญสติปัฏฐาน เราก็ยังอยู่ในทะเลชื่อ
ขออนุโมทนาค่ะ
"ทะเลภาพ ทะเลชื่อ" เป็นเพียงบัญญัติเรื่องราวของบุคคล สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ในขณะที่เราตื่น เรื่องราวที่เคยคิดว่ามันหนักหนาสาหัสจนต้องคิดแล้วคิดอีก แทบเป็นแทบตายในแต่ละวัน แท้จริงแล้ว สาระหามีไม่ มีก็เพียงสภาพคิดที่เกิดดับตามเหตุตามปัจจัย เราหลงไปยึดถือว่าเป็นแก่นสารที่ต้องคิดเสียนาน
ท่านเคยได้ยินคำว่า "ภาพๆ เดียวแทนคำพูดเป็นพัน" ไหมครับ
ผมคิดว่า "ภาพๆ เดียวอาจจะทำให้ประมาทจนหลงลืมสติเป็นพัน" มากกว่า ขออนุโมทนากระทู้ดีๆ ที่ทำให้มั่นคงในความเห็นถูก เพิ่มขึ้นครับ "เวลาอันแสนสั้นในชาตินี้ ขออุทิศให้กับการศึกษาพระธรรม"
คุณแล้วเจอกันคะ ภาพของความคิดเห็นที่ 3
เหมาะสมกับชื่อ "ทะเลภาพทะเลชื่อ" ที่สุดค่ะ คิดได้ไงคะเนี่ย สมกับที่เป็นนักศึกษาธรรมรุ่นใหม่ รุ่นไฮเทคเสียจริงเชียวค่ะ
เหมาะแล้วค่ะ ดูแล้วเข้าใจ ชื่นใจ ซึ้งในธัมมะมากขึ้น
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
ขออนุโมทนา
ระยะหลังนี้วิทยากรไม่ได้นำข้อความนี้ (ทะเลภาพ ทะเลชื่อ) มาสนทนาธรรมเลย ขอบคุณอีกครั้งและถูกใจมากกับภาพประกอบคำที่สวยงามและได้อรรถมากขึ้นช่วยให้มีความเข้าใจดีขึ้น ครับ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 284
[๑๗๘] เทวดาทูลถามว่า อะไรหนอครอบงำสิ่งทั้งปวง สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าสิ่งอะไร ย่อมไม่มี สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่ง คืออะไร
[๑๗๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ชื่อย่อมครอบงำสิ่งทั้งปวง สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าชื่อไม่มี สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือ ชื่อ
การได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง บ่อยๆ เนืองๆ ย่อมเป็นปัจจัยให้มีความมั่นคงขึ้นว่า ทุกขณะ เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้น หาได้มีตัวตนสัตว์บุคคล เรา เขาไม่ เป็นความมั่นคงขึ้น เรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ไม่หลงผิดแม้ในขณะที่มีความรู้สึกยินดีว่าเป็น "เรา" ที่ยินดี พอใจ ในความมั่นคงในธรรมนั้น บ่อยๆ เนืองๆ บ่อยๆ เนืองๆ บ่อยๆ เนืองๆ ๆ ๆ ๆ
ขออนุโมทนา