เราก็ยังเป็นปุถุชน ยังมีความต้องการ
ต้องยอมรับตามความเป็นจริงว่า เราก็ยังเป็นปุถุชน ยังมีความต้องการ รูป เสียง...ทรัพย์ เป็นต้น แต่เมื่อฟังธัมมะ มิใช่ความต้องการที่กล่าวมาจะหายไป แต่เราก็ฟังธัมมะและอบรมเจริญปัญญา พร้อมกับความเป็นไปตามปกติของความเป็นปุถุชนได้ ที่สำคัญต้องรู้ว่า กิเลสตัวแรกที่จะต้องละคืออะไร คือ ความเห็นผิดไม่ใช่โลภะ ที่มีในรูปเสียงกลิ่น... ดังนั้น จึงมีคำว่า อบรมเจริญสติเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ
ขั้นแรก คือ การอบรมเจริญปัญญาเพื่อให้เข้าใจถูก เห็นถูกในสิ่งที่เคยเห็นผิดมาก่อน ไม่ใช่ว่าจะต้องกระทำตัวให้ผิดแปลกไปจากวิถีชิวิตประจำวัน ถ้าการศึกษาเพียงขั้นแรกแล้ว ปุถุชนสามารถลัดไปถึงขั้นดับกิเลสเป็นสมุจเฉทได้ในภพชาติเดียว การบังเกิดอันแสนยากของพระพุทธเจ้าพระองค์แล้วพระองค์เล่าก็จะไม่มีคุณค่า และไม่มีความหมายเลยครับ
ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลสทั้งปวง
ไม่ว่าเราจะทำงาน ไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ แต่ขออย่างเดียวอย่าขาดการฟังธรรมค่ะ เพราะว่าพระธรรม เปรียบเหมือนเชือกที่ดึงเราขึ้นมาจากเหวลึกคือ อวิชชาค่ะ
ขออนุโมทนา