คุณธรรมของพระโพธิสัตว์

 
talaykwang
วันที่  23 มี.ค. 2566
หมายเลข  45710
อ่าน  446
อ้างถึง [เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ ทัณฑวรรควรรณนา เรื่องภิกษุผู้มีภัณฑะมาก ... หน้าที่ ๑๐๘ พระโพธิสัตว์แสดงเทวธรรมแก่รากษส

กล่าวว่า "รากษสเห็นพระโพธิสัตว์นั้นไม่ลง (สู่สระ) จึงแปลงเพศเป็นชายชาวป่า มากล่าวปราศรัยว่า ... ... ฯลฯ

พระโพธิสัตว์พอเห็นบุรุษนั้น ก็ทราบได้ว่า "ผู้นี้เป็นยักษ์"

คำถาม คือว่า เหตุใด แม้รากษส ตนนั้นแปลงเพศเป็นชายชาวป่าแล้ว แต่พระโพธิสัตว์ จึงสามารถรู้ได้ว่า รากษส นั้น เป็นยักษ์แปลงกายมาค่ะ และพระโพธิสัตว์เมื่อได้รับการพยากรณ์แล้ว สมบูรณ์พร้อมด้วยคุณธรรมประเภทใดบ้างคะ ลองค้นหาในกูเกิล มีกล่าวเพียง 3 ประการ คือ มหากรุณา มหาปัญญา และ มหาอุปายะ รบกวนอธิบายความเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ // กราบขอบพระคุณและยินดีในกุศลยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 25 มี.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่ข้องอยู่ในการตรัสรู้ บำเพ็ญบารมีคุณความดีประการต่างๆ เพื่อถึงการตรัสรู้ พระโพธิสัตว์ มี ๓ ประเภท คือ
๑.พระมหาสัตว์ หรือ สัพพัญญูโพธิสัตว์ คือ ผู้บำเพ็ญพระบารมีเพื่อถึงการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒.ปัจเจกโพธิสัตว์ คือ ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อถึงการตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ตรัสรู้เฉพาะตน แต่บารมีไม่ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่มีการประกาศพระศาสนาเหมือนกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๓. สาวกโพธิสัตว์ คือ ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อถึงการตรัสรู้ในฐานะที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สำหรับในประเด็นคำถาม มุ่งหมายถึง พระมหาสัตว์ ถ้าได้ศึกษาในหลายๆ ชาดกจะเห็นถึงความละเอียด ความเป็นผู้มีปัญญาพิจารณาไตร่ตรองใคร่ครวญในเหตุในผลตรงตามความเป็นจริง จึงสามารถเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงในเรื่องนี้ด้วย ที่รู้ว่าเป็นยักษ์ ก็เพราะความฉลาด ละเอียด รอบคอบ ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนของพระโพธิสัตว์นั่นเอง เป็นธรรม ทั้งหมด ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

คุณธรรมของพระโพธิสัตว์ เมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ได้สะสมบารมี บำเพ็ญคุณความดี ทำประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก ในฐานะของความเป็นพระมหาสัตว์โดยตลอด แม้ในฐานะที่เป็นพระมหาสัตว์ ก็มีปัญญามาก (มหาปัญญา) มีความกรุณาช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นเป็นอย่างมาก (มหากรุณา) และ รู้จักอุบาย คือ อุบายที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ โดยที่ไม่มีใครเสมอเหมือนเลย (มหาอุปายะ)

พระมหาสัตว์หลังจากที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็เป็นพระโพธิสัตว์แน่นอนที่จะได้ตรัสรู้ (นิยตโพธิสัตว์) มีคุณสมบัติมากมาย ตามข้อความในพระไตรปิฎก ดังนี้

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ ๑๐๙

พระโพธิสัตว์ผู้มีอภินิหาร (ตั้งความปรารถนาถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) สำเร็จแล้วอย่างนี้แล ย่อมไม่ถึงอภัพฐานะ ๑๘ ประการ จริงอยู่ พระโพธิสัตว์นั้น จำเดิมแต่นั้น ย่อมไม่เป็นคนบอดแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนหนวกแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนบ้า ๑ ไม่เป็นคนใบ้ ๑ไม่เป็นคนแคระ ๑ ไม่เกิดในชนชาติมิลักขะ ๑ ไม่เกิดในท้องของนางทาสี ๑ ไม่เป็นคนนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๑ ไม่เป็นคนกลับเพศ ๑ ไม่ทำอนันตริยกรรมห้าอย่าง ๑ ไม่เป็นคนโรคเรื้อน ๑ อัตภาพสุดท้ายไม่เวียนมาในกำเนิดดิรัจฉาน ๑ ไม่มีอัตภาพใหญ่กว่าช้าง ๑ ไม่เกิดในขุปปิปาสิกเปรตและนิชฌามตัณหิกเปรต ๑ ไม่เกิดในจำพวกกาลกัญชิกาสูรทั้งหลาย ๑ ไม่เกิดในอเวจีนรก ๑ ไม่เกิดในโลกันตริกนรก ๑ ไม่เป็นมารในสวรรค์ชั้นกามาวจร ไม่เกิดในอสัญญีภพในรูปาวจรภูมิ ไม่เกิดในภพสุทธาวาส ไม่เกิดในอันติมภพ ไม่ก้าวไปสู่จักรวาลอื่น ๑


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ ๖๙๑

พระนิยตโพธิสัตว์ ถึงพร้อมด้วยองค์ครบถ้วนอย่างนี้ แม้ท่องเที่ยวไปตลอดกาลยาวนานนับร้อยโกฏิกัปป์ ก็ไม่เกิดในอเวจี และในโลกันตริกนรกไม่เกิดเป็นนิชฌามตัณหิกเปรต ขุปปิปาสิกเปรต กาฬกัญชิกาสูร แม้เข้าถึงทุคติ ก็ไม่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เมื่อเกิดในหมู่มนุษย์ ก็ไม่เป็นคนตาบอดแต่กำเนิด โสตก็ไม่วิกลบกพร่อง ไม่เป็นคนประเภทใบ้ ไม่เป็นสตรี ไม่เป็นคนสองเพศ และไม่เป็นบัณเฑาะก์. พระนิยตโพธิสัตว์ ไม่เป็นผู้นับเนื่องดังกล่าว พ้นจากอนันตริยกรรม มีโคจรบริสุทธิ์ในภพทั้งปวง ไม่เสพมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นว่ากรรมเป็นอันทำมีผล แม้อยู่ในสวรรค์ทั้งหลาย ก็ไม่เข้าถึงอสัญญีภพ ทั้งไม่มีเหตุที่ไปเกิดในเทพชั้นสุทธาวาส เป็นผู้น้อมไปในเนกขัมมะ เป็นสัตบุรุษ ไม่เกาะเกี่ยวในภพใหญ่น้อย บำเพ็ญแต่โลกัตถจริยาทั้งหลาย บำเพ็ญบารมีทั้งปวง

... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
talaykwang
วันที่ 25 มี.ค. 2566

กราบขอบพระคุณและยินดีในกุศลยิ่งค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ