เจอช้างเร่ร่อน ... น่าสงสารจริงๆ

 
Salapao
วันที่  18 ส.ค. 2550
หมายเลข  4585
อ่าน  1,134

ทางผ่านตอนกลับบ้าน จะเจอลูกช้างที่เจ้าของพามายืนที่ถนน เพื่อให้คนมาซื้ออาหาร เห็นแล้วก็น่าสงสาร บางทีก็ซื้ออาหารให้ แต่อาหารที่เขาขายก็สุดจะแพง แตงกวา ๕ ลูกเล็กก็ ๒๐ บาทแล้ว ซื้อให้เท่าไรก็ไม่อิ่ม แล้วดิฉันก็ไม่สามารถซื้อให้ได้ตลอด จากการศึกษาธรรมมะ ก็รู้ว่านี่เป็นวิบากของช้าง แต่พอเห็นช้างหิว รอคนซื้ออาหารแล้วมันก็หดหู่ใจมาก เคยดูรายการทีวีรายการหนึ่ง เขาบอกว่าไม่ควรสนับสนุนในการซื้ออาหาร เฮ้อ เศร้าใจ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 19 ส.ค. 2550

หดหู่ใจ เศร้าใจ เป็นกุศลหรืออกุศลครับ ควรทราบว่าการเจริญกุศลมีหลายอย่าง คือ บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐ ในบางครั้ง

ควรพิจารณาตามความเหมาะสมและถูกต้อง แต่ไม่ควรมีอกุศลกับเรื่องบางเรื่อง บางอย่างพอช่วยได้ก็ช่วยเท่าที่จะทำได้ บางครั้งควรพิจารณาความที่สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน แม้ตัวเราเองก็มีกรรมเป็นของตนเช่นกัน การหดหู่ใจ หรือการเศร้าใจ ไม่มีประโยชน์อะไร และทุกอย่างที่ปรากฏเป็นเพียง สภาพธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปุถุชนคนหนึ่ง
วันที่ 19 ส.ค. 2550

กุศลเป็นเหตุให้เกิดอกุศล ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิด ทั้งช้างทั้งเรา ก็คงเศร้าต่อไป

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 19 ส.ค. 2550

พระพุทธเจ้าเราในอดีตชาติก็เคยเกิดเป็นพญาช้างค่ะ ถ้าเราสงสารช้าง เราก็ซื้อ อาหารให้ช้าง แล้วเราก็ไม่ต้องไปคิดว่าเป็นการสนับสนุนคนขาย เราช่วยให้ช้างได้ อาหารเท่าที่ช่วยได้ ตามกำลังทรัพย์และศรัทธาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ajarnkruo
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ไม่ว่าจะอยู่ในเหตุการณ์ไหน จะพบเจอกับสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ จะได้ยินเสียงที่น่าใคร่หรือไม่น่าปรารถนา จะคิดนึก ตรึกในเรื่องราวที่จำได้โดยพอใจหรือไม่พอใจ ทุกขณะในชีวิตประจำวัน ล้วนสามารถเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสติปัฏฐานได้ อย่าลืมว่า รูปขันธ์ของปุถุชนเป็นเหมือนกระเฌอก้นรั่ว ให้กิเลสต่างๆ ไหลซึมออกมาได้อยู่เสมอ จากรูปที่เห็นทางตาบ้าง จากเสียงที่ได้ยินทางหูบ้าง ... .จากสัมผัสที่กระทบทางกายบ้าง เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่พ้นไปจากทวารทั้ง ๕ นี้ รูปที่เกิดนั้นย่อมเป็นปัจจัยให้จิตยินดีบ้าง ยินร้ายบ้าง เป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ควรที่สติจะเกิดระลึกรู้สภาพที่หลงลืมสติด้วย ไม่เช่นนั้นกิเลสก็จะพาจิตให้ไหลไป ตามกระแสโดยง่ายครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ถ้ามัวคิดว่า จะหลอกลวงหรือสนับสนุน ก็ไม่ต้องช่วยกันพอดี ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ที่สุด คนที่ไม่ตระหนี่ ย่อมไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะไม่ให้หรือไม่ช่วยเหลือ สัตว์ทั้งหลายมี กรรมเป็นของๆ ตน ให้เพื่อนุเคราะห์ (กุศลไม่ประกอบด้วยปัญญา) หรือให้เพราะรู้ว่าทาน ที่ให้แล้วมีผล เชื่อกรรมและผลของกรรม ขัดเกลาความตระหนี่ของตน (ประกอบด้วย ปัญญา) หรือพิจารณาว่า ช้างเคยเป็น บิดา มารดา ... เป็นต้นในอดีตชาติที่ผ่านมา ควร ช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ การคิดพิจารณาอย่างนี้ย่อมเป็นประโยชน์กว่า การคิดที่จะไม่ ช่วยเหลือเพราะกลัวโดนหลอก จะลำบากไม่ลำบาก ก็เพราะกรรมของช้าง ไม่ใช่เพราะ เหตุที่เราไปให้ การที่สัตว์ต้องทุกข์เพราะอกุศลกรรมที่ช้างเคยทำในอดีต ไม่ใช่เพราะ เราไปให้ ดังนั้นเมื่อพิจารณาย่อมเป็นกุศล และเป็นประโยชน์ต่อเราและช้างด้วย เพราะช้างก็ได้ทานขณะนั้น ส่วนช้างจะลำบากก็เพราะกรรมของช้างเองครับ

ต้องเป็นผู้ตรงว่า ขณะที่ไม่ช่วยเพราะอะไรและจิตอะไร ขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แล้วไม่ทุกข์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
keaw10
วันที่ 20 ส.ค. 2550

จะให้ซื้อช้างกลับไปเลี้ยงก็กระไรอยู่ เดี๋ยวควานช้างก็อด ขาดรายได้ อย่ามีเมตตาแต่ช้างครับสงสารคนเลี้ยงช้างด้วยครับ การเมตตาอย่าเลือกที่จะเมตตาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 8 ก.ย. 2550
เหตุที่ช่วย? เหตุที่ไม่ช่วย?
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 7 ส.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ