เป็นเพราะสัจจะ หรือ เป็นเพราะกรรม

 
Nareopak
วันที่  18 ส.ค. 2550
หมายเลข  4586
อ่าน  3,143

หากต้องเป็นฝ่ายช่วยเหลือใครสักคน โดยที่ไม่สามารถปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นได้เพราะมีเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ทำให้ปฏิเสธไม่ได้แทบทุกครั้ง เป็นผลของกรรมหรือเป็นเพราะในอดีตชาติเคยมีสัจจะต่อคนนั้นๆ ว่าจะให้การช่วยเหลือหากเป็นกรรมก็ต้องชดใช้ แต่ไม่ทราบว่าหากเป็นสัจจะ จะมีการถอนสัจจะได้หรือไม่ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 19 ส.ค. 2550

พระพุทธเจ้าทรงจำแนกจิตประเภทต่างๆ ว่ามีหลายชาติ จิตบางขณะเกิดขึ้นเป็นชาติวิบากจิต บางขณะเกิดขึ้นเป็นชาติกุศล จิตบางขณะเกิดขึ้นเป็นชาติอกุศล จิตบางขณะเกิดขึ้นเป็นชาติกิริยา ขณะจิตที่เกิดขึ้นคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นขณะนั้นเป็นกุศล หลังจากนั้นจิตประเภทอื่นๆ ก็เกิดขึ้นสลับมากมาย ส่วนจิตที่เป็นผลของกรรมนั้น ได้แก่ วิบากจิต เช่น จิตเห็น จิตได้ยิน เป็นต้น สำหรับเหตุการณ์ในอดีตชาติที่ผ่านไปแล้วเหมือนประตูที่ปิดแล้ว เราไม่สามารถรู้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่อดีตชาติของชาติหน้าคือชาติปัจจุบัน ชาติปัจจุบันสำคัญที่สุด เพราะเป็นโอกาสที่เราจะสะสมอบรมบุญบารมีเพื่อการดับกิเลสและวัฏฏะทุกข์นี้ได้ ดังนี้ ควรกระทำวันนี้ให้ดีที่สุดด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอนเพื่อการอบรมเจริญปัญญาต่อไป

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 19 ส.ค. 2550

สัจจะ คือความจริง ต้องเป็นไปในฝ่ายกุศลเท่านั้นค่ะ ถ้าสมมติ นัดเพื่อนจะไปเที่ยวอบายมุข แล้วเราไม่ไปก็ไม่ถือว่าผิดสัจจะ ถ้าเป็นอกุศล ไม่ใช่สัจจะค่ะ การช่วยเหลือคนอื่น ถ้าเราช่วยได้และไม่เดือดร้อน ก็ควรช่วยเขาเท่าที่จะช่วยได้ เพราะว่าเขาคงได้รับความเดือดร้อนจึงมาขอความช่วยเหลือจากเรา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ปุถุชนคนหนึ่ง
วันที่ 19 ส.ค. 2550

เป็นที่พึ่งให้กับคนอื่นได้ ดีกว่าไปพึ่งคนอื่น

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ajarnkruo
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ชาติก่อนก็เป็นบุคคลคนก่อน สิ้นสุดความเป็นบุคคลในชาติก่อนไปแล้ว ก็มาเกิดในชาตินี้ไม่มีใครจำได้เลยว่าเคยรู้จักกับใครมาก่อนบ้าง ที่เดินผ่านกันไปผ่านกันมาทุกวันนี้แต่ก็ไม่ได้ทักทายกันก็อาจจะเป็นญาติกันมาก่อนก็ได้ ที่เคยสัญญาอะไรกับใครไว้หรือติดหนี้บุญคุณใครหรือตายด้วยกรรมหนักกรรมใด ถ้าไม่มีพลญาณก็ย้อนกลับไปรู้ความจริงนั้นไม่ได้ครับ สิ่งที่สำคัญตอนนี้ คือ เมื่อมีทางที่กุศลจิตจะเกิดได้ก็ไม่ควรจะปล่อยให้โอกาสอันหายากให้ผ่านเลยไป เพราะกุศลที่เกิดกับจิตในแต่ละวันไม่ได้เกิดบ่อยเท่ากับอกุศล อีกประการหนึ่ง ทุกคนจะต้องสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ในชาตินี้แน่นอน เกิดชาติหน้าความทรงจำในชาตินี้ก็ต้องสูญหาย (ยกเว้นจะไปเกิดเป็นเปรตหรือเทพที่โตทันทีนะครับ) ไม่มีใครรู้ว่าผลของกรรมหนัก กรรมหนึ่งกรรมใดที่ได้กระทำสำเร็จแล้วในอดีตจะให้ผลเมื่อไร และเวลาในปัจจุบันนี้ก็เป็นอดีตไปทุกขณะๆ เรียกกลับคืนมาไม่ได้ จึงไม่ควรประมาทครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

การพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น ต้องพิจารณาทีละขณะจิต เพราะจิตเกิดดับทีละขณะขณะที่ได้กระทบสิ่งที่ไม่ดี ขณะนั้นเป็นอกุศลวิบาก เป็นผลของกรรมที่ไม่ดี เป็นต้น ขณะที่ได้กระทบสิ่งที่ดีทางตา ... กาย ขณะนั้นเป็นผลของกรรมที่ดี แม้เราจะไม่ต้องช่วยเหลือใครหรือช่วยเหลือใครก็ตาม ก็ต้องมีกรรมที่ต้องชดใช้อยู่แล้ว เพราะเราทำเหตุที่ไม่ดีมา กรรมที่ต้องชดใช้ก็ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เป็นต้น แต่จะได้รับสิ่งดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่กรรม ไม่มีใครถอนสัจจะได้เพราะเหตุได้ทำแล้ว แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องราวที่ต้องช่วยเหลือ การจะถอนกรรมก็คือ เป็นพระอรหันต์ครับ ส่วนการช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นธรรมที่เป็นที่พึ่งด้วยครับ เพราะเป็นกุศลนั่นเอง ดังนั้นควรช่วยเหลือ แม้แต่เขาไม่ร้องขอก็ตาม ช่วยเท่าที่จะช่วยได้ ลองอ่านดูนะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 19 ส.ค. 2550

เรื่อง การช่วยเหลือ เป็นสิ่งที่ดี เป็นธรรมที่เป็นที่พึ่ง

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 40

ข้อความบางตอนจาก ปฐมนาถสูตร อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในกิจที่ควรทำอย่างไร ทั้งสูงทั้งต่ำของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายประกอบด้วยปัญญา เป็นเครื่องพิจารณา อันเป็นอุบายในกิจนั้น อาจทำ อาจจัดได้ ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในกิจที่ควรทำอย่างไรทั้งสูงทั้งต่ำ ของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ฯลฯ อาจทำ อาจจัดได้นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ยังจะสงสัยอะไรกับสิ่งที่ดับไปแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Nareopak
วันที่ 19 ส.ค. 2550

ซาบซึ้งในทุกๆ ความคิดเห็นและเข้าใจมากขึ้นแล้วค่ะ ความยึดถือว่าเป็นของของเรา ว่าเป็นทรัพย์สินของเรามันทำให้เกิดทุกข์ได้มากจริงๆ

กราบขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
shumporn.t
วันที่ 20 ส.ค. 2550

อนุโมทนา ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการทำความดี

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
olive
วันที่ 21 ส.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 7 ส.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ