ในปรมัตถธรรม 4 มีธรรมใดที่ไม่เกิดเพราะเหตุปัจจัยบ้าง

 
lokiya
วันที่  8 พ.ค. 2566
หมายเลข  45868
อ่าน  363

ในปรมัตถธรรม 4 มีธรรมใดที่ไม่เกิดเพราะเหตุปัจจัยบ้าง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 9 พ.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปรมัตถธรรม
หมายถึง สิ่งที่มีจริง มีลักษณะที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มี ๔ อย่าง ได้แก่ จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ซึ่งสิ่งที่มีจริงนั้นไม่พ้นไปจากปรมัตถธรรม ๔ เลย เป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงแสดงแก่สัตว์โลกเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง

คำอธิบายปรมัตถธรรมทั้ง ๔ มีดังนี้

จิตปรมัตถ์ เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ จิตแม้จะมีหลากหลายประเภท ตามเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย บ้าง หลากหลายตามอารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้ บ้าง หลากหลายตามภูมิคือระดับขั้นของจิต บ้าง แต่ก็มีลักษณะเดียวคือมีการรู้แจ้งอารมณ์เป็นลักษณะ ตัวอย่างของจิต เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องกระทบสัมผัสทางกาย เป็นต้น

เจตสิกปรมัตถ์ เป็นนามธรรมที่เกิดร่วมกับจิต ดับพร้อมกับจิต มีอารมณ์เดียวกับจิต และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต ตัวอย่างเจตสิก เช่น ผัสสะ สภาพธรรมที่กระทบอารมณ์ที่จิตรู้ เวทนา ความรู้สึก โลภะ ความติดข้องต้องการ โทสะ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ศรัทธา ความเลื่อมใส ความผ่องใส สติ ความระลึกเป็นไปในกุศลธรรม หิริ ความละอายต่อบาป โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นต้น

รูปปรมัตถ์ เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เพราะสมุฏฐานต่างๆ กล่าวคือ บางรูปเกิดขึ้นเพราะกรรมมีกรรมเป็นธรรมที่ก่อตั้งให้รูปนั้นเกิดขึ้น บางรูปเกิดขึ้นเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน บางรูปเกิดขึ้นเพราะอุตุ ความเย็นความร้อนเป็นสมุฏฐาน บางรูปเกิดเพราะอาหารเป็นสมุฏฐาน ตัวอย่างของรูปปรมัตถ์ เช่น สี เสียง กลิ่น รส ธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุลม จักขุปสาทะ (ตา) โสตปสาทะ (หู) ฆานปสาทะ (จมูก) ชิวหาปสาทะ (ลิ้น) กายปสาทะ (กาย) เป็นต้น

และมีปรมัตถธรรมอีกประเภทหนึ่ง คือ นิพพานปรมัตถ์ ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม เป็นธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ดับกิเลส เป็นสภาพธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เกิดดับอย่างสิ้นเชิง

สำหรับ ปรมัตถธรรม ๓ ได้แก่ จิต เจตสิก รูป เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ส่วนนิพพานเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ จึงเป็นสภาพที่ไม่ได้เกิดเพราะเหตุปัจจัยใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
lokiya
วันที่ 10 พ.ค. 2566

อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 1 โดย khampan.a

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปรมัตถธรรม
หมายถึง สิ่งที่มีจริง มีลักษณะที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มี ๔ อย่าง ได้แก่ จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ซึ่งสิ่งที่มีจริงนั้นไม่พ้นไปจากปรมัตถธรรม ๔ เลย เป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงแสดงแก่สัตว์โลกเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง

คำอธิบายปรมัตถธรรมทั้ง ๔ มีดังนี้

จิตปรมัตถ์ เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ จิตแม้จะมีหลากหลายประเภท ตามเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย บ้าง หลากหลายตามอารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้ บ้าง หลากหลายตามภูมิคือระดับขั้นของจิต บ้าง แต่ก็มีลักษณะเดียวคือมีการรู้แจ้งอารมณ์เป็นลักษณะ ตัวอย่างของจิต เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องกระทบสัมผัสทางกาย เป็นต้น

เจตสิกปรมัตถ์ เป็นนามธรรมที่เกิดร่วมกับจิต ดับพร้อมกับจิต มีอารมณ์เดียวกับจิต และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต ตัวอย่างเจตสิก เช่น ผัสสะ สภาพธรรมที่กระทบอารมณ์ที่จิตรู้ เวทนา ความรู้สึก โลภะ ความติดข้องต้องการ โทสะ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ศรัทธา ความเลื่อมใส ความผ่องใส สติ ความระลึกเป็นไปในกุศลธรรม หิริ ความละอายต่อบาป โอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นต้น

รูปปรมัตถ์ เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เพราะสมุฏฐานต่างๆ กล่าวคือ บางรูปเกิดขึ้นเพราะกรรมมีกรรมเป็นธรรมที่ก่อตั้งให้รูปนั้นเกิดขึ้น บางรูปเกิดขึ้นเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน บางรูปเกิดขึ้นเพราะอุตุ ความเย็นความร้อนเป็นสมุฏฐาน บางรูปเกิดเพราะอาหารเป็นสมุฏฐาน ตัวอย่างของรูปปรมัตถ์ เช่น สี เสียง กลิ่น รส ธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุลม จักขุปสาทะ (ตา) โสตปสาทะ (หู) ฆานปสาทะ (จมูก) ชิวหาปสาทะ (ลิ้น) กายปสาทะ (กาย) เป็นต้น

และมีปรมัตถธรรมอีกประเภทหนึ่ง คือ นิพพานปรมัตถ์ ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม เป็นธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ดับกิเลส เป็นสภาพธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เกิดดับอย่างสิ้นเชิง

สำหรับ ปรมัตถธรรม ๓ ได้แก่ จิต เจตสิก รูป เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ส่วนนิพพานเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ จึงเป็นสภาพที่ไม่ได้เกิดเพราะเหตุปัจจัยใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ