อุทิศส่วนกุศล

 
nibupadham
วันที่  9 มิ.ย. 2566
หมายเลข  46058
อ่าน  445

การอุทิศส่วนกุศล จำเป็นต้องเปล่งเสียงออกมาไหมคะ หรืออุทิศในใจได้

เปล่งเสียง กับ ในใจ ให้ผลต่างกันอย่างไร ขอความเข้าใจค่ะ ขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 9 มิ.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๔๒๙

"เมื่อบุคคลให้ทาน กระทำการบูชาด้วยของหอมเป็นต้น แล้วให้ส่วนบุญว่า ขอส่วนบุญ จงมีแก่บุคคลชื่อโน้น หรือว่า ขอส่วนบุญจงมีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดังนี้ พึงทราบว่า เป็นบุญกิริยาวัตถุอันเกิดแต่การให้ส่วนบุญ"


ประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก กุศลที่ได้ทำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล หรือแม้แต่การฟังพระธรรม ก็สามารถอุทิศเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นได้ การอุทิศส่วนกุศลให้ใคร จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ เพื่อผู้นั้นจะได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตน มีแต่สภาพธรรมเท่านั้น จะเปล่งเสียงหรือไม่เปล่งเสียง ก็ย่อมได้ เพราะสำคัญที่สภาพจิต สภาพจิตที่ดีงามของผู้อุทิศส่วนกุศล ก็เป็นกุศลของผู้ที่อุทิศส่วนกุศล เมื่อเป็นเหตุที่ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นเหตุทำให้ผลที่ดีเกิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องไปคิดถึงเลยว่า จะให้ผลต่างกันอย่างไร เพราะเหตุว่า ผลของกุศล ย่อมเป็นผลที่ดี เท่านั้น

สำหรับ กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่น แต่การที่เราทำกุศลแล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ

แม้ในบางเหตุการณ์ ไม่มีผู้อุทิศให้ แต่เมื่อทราบข่าวการเจริญกุศลนั้น เช่นทราบข่าว เด็กนักเรียน เก็บกระเป๋าสตางค์ได้ แล้วส่งคืนเจ้าของ จิตใจของผู้ทราบข่าว ก็ยินดีในกุศลของเด็กนักเรียนคนนั้น กุศลที่อนุโมทนายินดีด้วย ก็เป็นอันสำเร็จแล้ว แม้ในพระไตรปิฎก ก็มีข้อความแสดงไว้ด้วย อย่างในกรณีที่นางวิสาขามหาอุบาสิกา ได้มีจิตศรัทธาสร้างปราสาทในปุปพาราม เพื่อเป็นที่อยู่ ถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหมู่แห่งภิกษุสงฆ์ และได้ถวายทานเป็นอันมาก เพื่อนของนางวิสาขา ได้ทราบข่าวนี้ก็เกิดกุศลชื่นชมยินดีในกุศลของนางวิสาขามหาอุบาสิกา โดยที่นางวิสาขา ไม่ได้บอกให้ท่านได้ทราบเลย แต่ตัวท่านทราบการเจริญกุศลในครั้งนี้ ท่านก็เกิดกุศลจิต ชื่นชมยินดีในกุศลของนางวิสาขามหาอุบาสิกา และด้วยผลแห่งบุญที่ได้อนุโมทนาบุญกุศลที่นางวิสาขามหาอุบาสิกาได้กระทำแล้ว ก็ทำให้เพื่อนของนางวิสาขามหาอุบาสิกาได้ไปเกิดในสวรรค์ ตามข้อความใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๕๕ ดังนี้
"ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ นางวิสาขามหาอุบาสิกาสหายของดิฉันอยู่ในกรุง
สาวัตถี ได้สร้าง
มหาวิหารถวายสงฆ์ ดิฉันเห็นมหาวิหารและการบริจาคทรัพย์อุทิศสงฆ์ ซึ่งเป็นที่รักของดิฉัน เลื่อมใสในบุญนั้น จึงอนุโมทนา ดิฉันได้วิมานที่อัศจรรย์น่าทัศนา ด้วยอนุโมทนาอันบริสุทธิ์นั้นเอง"


... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nibupadham
วันที่ 9 มิ.ย. 2566

กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 14 มิ.ย. 2566

บุญหรือกุศลมี 10 ประการ คือ ทาน ศีล ภาวนา อ่อนน้อม การช่วยเหลือ การอนุโมทนา การอุทิศกุศล การแสดงธรรม การฟังธรรม และความเห็นถูก ทุกครั้งที่ทำกุศล การอุทิศส่วนกุศลในใจหรือเปล่งเสียงอยู่ที่เจตนา แต่โดยปกติเปล่งเสียงมีกำลังมากกว่าค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ