ปัญญาสามารถดับทุกข์ได้
ทุกข์มีหลายนัย (ทุกขทุกข์ วิปริณามทุกข์ สังขารทุกข์ ฯลฯ ) ปัญญามีหลายระดับขั้น (สุตตะ จินตา ภาวนา โลกียะ โลกุตรปัญญา) ปัญญาของปุถุชนยังดับทุกข์ไม่ได้นะคะ แต่จะขัดเกลากิเลสให้เบาบางและมีกำลังน้อยลง ชั่วขณะที่สติสัมปชัญญะเกิดขึ้นกระทำกิจ สภาพจิตในขณะนั้นสงบ ไม่มีกิเลสทุกข์ ถ้าจะดับทุกข์จริงๆ ต้องด้วยองค์ของวิปัสสนาญานและมรรคค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การจะดับทุกข์โดยสิ้นเชิงต้องเป็นปัญญาระดับมรรค (อรหันต์) แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ปัญญาย่อมไม่ก้าวกระโดด โดยเริ่มจากการฟังธรรมให้เข้าใจ ในเรื่องสภาพธัมมะที่มี จริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนเป็นปัจจัยให้สติปัฏฐานเกิดระลึกสภาพธัมมะว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา และก็ถึงปัญญาระดับวิปัสสนาญาณต่อด้วยปัญญาระดับ โสดาปัตติมรรค จนถึงอรหัตตมรรคจึงสามารถดับกิเลสได้ ไม่ทุกข์เพราะกิเลสอีกครับ ดังนั้น การดับทุกข์ด้วยปัญญาในชีวิตประจำวัน จึงเริ่มจากความเห็นถูกว่าทุกอย่างเป็นธรรม นี่แหละจะเป็นหนทางสู่ความดับทุกข์ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ เพราะทุกข์ก็ไม่ใช่อื่น ก็สภาพธัมมะที่ปรากฏในชีวิตประจำวันนั่นเอง เป็นอริยสัจจธรรม
ขออนุโมทนา
ตัวอย่าง ดับทุกข์ของบิดาด้วยปัญญาขั้นคิดพิจารณาในชีวิตประจำวัน
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่
เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่าการดับกิเลส ก็สามารถดับได้ แม้แต่การใช้ชีวิตอยู่ในชีวิตประจำวัน เพราะมีธรรมอยู่แล้วที่จะให้รู้ ขาดแต่เพียงปัญญาเท่านั้น เมื่อเหตุพร้อมก็สามารถดับทุกข์จนเป็นพระอรหันต์ได้ครับ
ตัวอย่างการดับทุกข์ด้วยปัญญาระดับมรรค ผล
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่
