เจ้ากรรมนายเวร

 
nibupadham
วันที่  10 มิ.ย. 2566
หมายเลข  46060
อ่าน  329

ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร

ท่านเทวทัตชาติหนึ่ง เคยเป็นบิดาของพระพุทธองค์ แล้วมาเป็นคนที่ปองร้ายพระพุทธองค์ในอีกชาติหนึ่ง

ขอความเข้าใจด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 12 มิ.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า ๓๘๙

บุรุษทำกรรมเหล่าใดไว้ เขาย่อมเห็นกรรมเหล่านั้น ในตน ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น


สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย จักทำกรรมใดไว้ ไม่ว่าจะดีก็ตาม ชั่วก็ตาม ก็จะเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น เพราะฉะนั้น จึงไม่มีผู้อื่นเป็นเจ้ากรรมที่จะบันดาลหรือจะทำให้มีความสุขหรือมีความทุกข์ได้ แต่สัตว์ทั้งหลายจะมีความสุข ความทุกข์ ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ ได้สรรเสริญ หรือ นินทา ก็เพราะกรรมของตน แต่ละบุคคลล้วนมีกรรมเป็นของตนทั้งนั้น แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นบุคคลผู้เลิศที่สุด ประเสริฐที่สุด พระองค์ยังได้รับผลของอกุศลกรรมที่พระองค์ได้เคยกระทำแล้วในอดีต

เวลาได้อ่านชาดก จะพบหลายชาติทีเดียว ที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกของพระเทวทัต และถูกพระเทวทัตผู้เป็นบิดาเบียดเบียนจนถึงกับสิ้นชีวิต เช่น จุลลธรรมปาลชาดก เป็นต้น ก็ลองพิจารณาตามเหตุตามผล ที่พระโพธิสัตว์ถูกเบียดเบียนประทุษร้าย ก็ต้องมาจากเหตุคืออกุศลกรรมที่พระองค์ได้เคยทำแล้วในอดีต ถ้าไม่เคยทำเหตุไม่ดีมา ผลที่ไม่ดี ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ส่วนการเบียดเบียนการประทุษร้าย ก็เป็นการสะสมของพระเทวทัต ซึ่งก็ต้องเคยสะสมอย่างนั้นมาแล้ว เมื่อสะสมความไม่ดีมากขึ้นๆ ผูกโกรธมากขึ้นๆ ก็เป็นเหตุทำให้มีการล่วงออกมาทางกาย ทางวาจา เป็นการก่อกรรมใหม่ ซึ่งก็จะเป็นโทษกับพระเทวทัตต่อไป ทั้งหมด ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน มีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่

เมื่อได้ศึกษาพระธรรมเข้าใจ มั่นคงในเหตุแลผลแล้วก็จะเข้าใจได้ว่า ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร เพราะสัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว จึงควรทำแต่กรรมดีเท่านั้น ไม่ควรทำกรรมชั่วโดยประการทั้งปวง ครับ

... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
capacitor4
วันที่ 12 มิ.ย. 2566

กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนา อ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 14 มิ.ย. 2566

พระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ว่า ในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนานนับไม่ได้ ผู้ที่เกิดมาจะไม่เกี่ยวข้องกันเป็นญาติเป็นสามีเป็นภรรยาเป็นลูกเป็นหลานหาได้ยากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 14 มิ.ย. 2566

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nibupadham
วันที่ 14 มิ.ย. 2566

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนา อาจารย์คำปั่นค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ