อนึ่งพึงอนุโมทนาบุญของสัตว์ทั้งปวง
[เล่มที่ 74] ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 642
พึงปรารภความเพียรในประโยชน์ของสัตว์นั้นๆ พึงอดกลั้นสิ่งทั้งปวงมีสิ่งที่น่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนาเป็นต้น
พึงไม่พูดผิดความจริง
พึงแผ่เมตตาและกรุณาแก่สัตว์ทั้งปวงโดยไม่เจาะจง.
การเกิดขึ้นแห่งทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งจะพึงมีแก่สัตว์ทั้งหลายพึงหวังการเกิดขึ้นแห่งทุกข์ทั้งปวงนั้นไว้ในตน.
อนึ่งพึงอนุโมทนาบุญของสัตว์ทั้งปวง
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พึงปรารภความเพียรในประโยชน์ของสัตว์นั้นๆ
สัตว์โลกย่อมรักตนเอง ขณะใดที่ไม่ช่วยเหลือ ขณะนั้นไม่ได้นึกถึงคนอื่น ช่วยไม่แบ่งแยกเลยว่าจะเป็นคนไหน ไม่ว่าจะเป็นคนที่รักหรือไม่รัก เพราะการช่วยเหลือ เป็นสิ่งที่ดี
พึงอดกลั้นสิ่งทั้งปวงมีสิ่งที่น่าปรารถนาและไม่น่าปรารถนาเป็นต้น
สภาพธัมมะที่เป็นขันติ ไม่ได้หมายถึงอดทนเฉพาะสิ่งที่ไม่ดีเท่านั้น แม้สิ่งที่ดี แล้วทำให้ติดข้อง หวั่นไหวไปด้วยอำนาจกิเลส ขณะนั้นก็ไม่เป็นขันติ ไม่อดทน อดกลั้น ดังนั้น ถ้ายังไม่มีปัญญาก็ไม่สามารถอดกลั้นในสิ่งที่มากระทบได้เพราะ หวั่นไหวไปด้วยอำนาจอกุศล แต่อบรมได้ด้วยการฟังพระธรรมและเห็นโทษและอานิสงส์ของขันติ
พึงไม่พูดผิดความจริง
ขณะที่พูดสิ่งไม่จริง ขณะนั้นย่อมเป็นอกุศล ผู้ที่พูดไม่จริง ทุกอย่างก็ไม่จริง คนที่พูดไม่จริง บาปแม้อย่างอื่นก็ย่อมทำได้ เพราะขาดความเป็นผู้ตรงแม้ในเรื่องของ สัจจะ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว จะถึงสัจจะที่เป็นอริยสัจจธรรมได้อย่างไร ค่อยๆ อบรมไป ด้วยการฟังพระธรรม.
พึงแผ่เมตตาและกรุณาแก่สัตว์ทั้งปวงโดยไม่เจาะจง
หลายท่านมีเมตตากับคนดีได้ แต่พอคนไม่ดี ย่อมมีคำพูดหรือกิริยาที่แสดงถึง ความไม่มีเมตตากับเขาเลย ดังนั้นควรเห็นใจและสงสารเขามากว่าที่เขาเป็น คนไม่ดี ทุกคนก็ยังมีกิเลส ดังนั้น พึงมีเมตตา และกรุณาโดยไม่เลือก บุคคลครับ
การเกิดขึ้นแห่งทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งจะพึงมีแก่สัตว์ทั้งหลายพึงหวังการเกิดขึ้นแห่งทุกข์ทั้งปวงนั้นไว้ในตน.
เมื่อเราเห็นคนอื่น หรือสัตว์อื่นเป็นทุกข์ เช่น ป่วยหรือเจ็บ เป็นต้น พึงพิจารณาเถอะว่า แม้เราก็ต้องเป็นอย่างนี้ เช่นกัน ตราบใดที่ยังมีกายนี้อยู่ และยังมีกิเลส เพราะเราย่อมทำอกุศลมาด้วยจึงไม่พ้นไปจากความทุกข์ได้เลย เมื่อเห็นดังนี้จึงไม่ควรประมาทเมื่อเห็นบุคคลอื่นเป็นทุกข์ ก็ควรน้อมมาใส่ตนว่าเราก็ต้องเป็นอย่างนี้ จึงไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการและฟังพระธรรมครับ
อนึ่งพึงอนุโมทนาบุญของสัตว์ทั้งปวง
ขณะใดที่เห็นบุคคลอื่นทำความดี เราไม่ได้ใส่ใจว่าคนนี้เป็นคนที่เราไม่ชอบ หรืออย่างไรก็ตาม แต่สภาพธัมมะที่เป็นกุศลย่อมเป็นกุศล ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ดังนั้นจึงควร อนุโมทนาในสิ่งที่เป็นกุศลที่เขาทำ โดยไม่เลือกว่าเป็นบุคคลใดเพราะกุศลย่อมเป็นสภาพธัมมะที่เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดกับบุคคลใดก็ตาม
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาทุกท่านที่สนใจพระธรรมครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อายุของมนุษย์ทั้งหลายนี้น้อยนัก จำต้องไปสู่สัมปรายภพ ควรทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ เพราะสัตว์ผู้เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มีค่ะ