เป็นพาลก็ไม่รู้ … เป็นพาลเพราะไม่รู้

 
nattawan
วันที่  21 ส.ค. 2566
หมายเลข  46413
อ่าน  351

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สนทนาปัญหาธรรม 15 ส.ค.66

ท่านอาจารย์แสดงถึงธรรมะที่เป็นคนพาลถ้าท่านอาจารย์ไม่แสดงถึงลักษณะธรรมะจริงๆ ก็เป็นคนนั้นพาล คนนี้พาล ตัวเองก็พาล ท่านอาจารย์แสดงถึงเหตุปัจจัยจริงๆ ว่าลืมไปหรือเปล่าว่าเป็นธรรมะ เป็นประโยชน์ที่ท่านอาจารย์จะแสดงธรรมะในทุกสถานการณ์ที่จิตจะไม่เป็นไปกับอกุศล เรื่องว่าง่ายก็ดี ว่ายาวก็ดี ก็เป็นคนที่ว่าง่ายและว่ายาก แต่จริงๆ แล้วลืมไปว่าเป็นธรรมะ แต่ฟังเป็นเรื่องราวและคิดถึงบุคคลอื่นด้วยอกุศล ... เป็นพาลก็ไม่รู้!!!

คนพาลแล้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนพาล ... ไม่เห็นความเป็นคนพาลคือมืดบอดแล้วใครจะมาเตือน ถ้าไม่มีคำจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงเตือนให้รู้ว่า ความเป็นพาลเหมือนกับว่าเราไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายเลย เป็นพาลเพราะไม่รู้ ... แล้วก็ไม่รู้

เป็นประโยชน์อย่างมากที่ท่านอาจารย์แสดงความเป็นพาล คือท่านอาจานย์เตือนว่า ลืมไปหรือเปล่าว่าขณะนี้เป็นธรรมะ เป็นคนอื่นพาล คนนี้พานล เราพาล ... ก็ยังเป็นเราอยู่และแม้แต่เราเป็นคนพาลก็ยังเป็นเราที่พาลไม่เป็นธรรมะ!!!

ความกรุณาของท่านอาจารย์ลึกซึ้งมาก แม้แต่การที่ท่านอาจารย์ตักเตือนอะไรก็ตาม ก็ได้รับโอกาสตักเตือนจากท่านอาจารย์ ชี้ให้เห็นทันทีว่าตรงนั้นผิดและมีวิธีที่จะเตือนโดยแยบคาย

ไม่ง่ายเลยที่จะเตือนบุคคลทั่วไปอย่างมีหลักฐานและเหตุผล บางทีเราไปติเตียนคนอื่นโดยเราไม่ได้ฟังความเห็นของผู้นั้นว่า เขาพูดมาเป็นจริงอย่างนั้นหรือเปล่า!! เราก็พูดไปเลยว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จริงๆ แล้วก็ไม่มีใคร มีแต่สภาพธรรมะ แต่เพราะความไม่รู้จึงมีความเป็นเรา เป็นบุคคลอื่น มีเราที่ไม่ดี มีคนอื่นที่ไม่ดี

ท่านอาจารย์ : ยินดีที่มีความเข้าใจถูกในความลึกซึ้งของพระธรรมเพิ่มขึ้น มิเช่นนั้น บางคนก็คิดว่าง่าย พระองค์สอนให้ปฏิบัติ แต่ไม่ใช่เลย ... ให้เข้าใจในความลึกซึ้ง ไม่เข้าใจเพียงชื่อหรือเรื่องว่ารู้แล้ว แต่รู้แล้วคือเดี๋ยวนี้รู้อะไร!!!

กว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสสรู้ ต้องทรงบำเพ็ญพระบารมีนานเท่าไหร่ ... ที่จะมีพระมหากรุณาคิดถึงคนอื่นที่เขาไม่สามารถจะรู้ได้ด้วยตัวเองเพื่อที่พระองค์จะได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุดไม่มีอะไรที่จะเหนือกว่านั้นที่ จะทำให้พระองค์ทรงอนุเคราะห์คนอื่นด้วยการแสดงความจริงของธรรมะละเอียดอย่างยิ่งทุกเรื่อง แม้เพียงคำว่า "พาลกับบัณฑิต" ทุกคำละเอียดมากเพราะเป็นธรรมะทั้งหมด

ฟังเพื่อรู้จักธรรมะที่ตัวเองไม่ได้คำนึงว่าผู้อื่นจะเป็นอย่างไร เพราะเขาไม่ดี ... แล้วเราดีหรือ!! ทำให้นะลึกได้ถึงความเป็นจริง จะได้รู้ตัวเองว่าการเป็นบัณฑิต ... ระดับไหนจึงเป็นบัณฑิต

มีความเห็นถูกจนกระทั่งค่อยๆ ละ เห็นโทษของอกุศลทั้งหลายทีละเล็กทีละน้อย ทำให้เป็นผู้ที่รู้คุณของพระธรรม ว่าง่ายและประพฤติปฏิบัติตามจนสามารถเป็นกัลยาณมิตรได้!!!อาจารย์อรรณพกล่าวว่า ถ้าตัวเองไม่มีคุณแล้วจะไปเป็นกัลยาณมิตรได้อย่างไร!!! กัลยา คือ ดีงาม และคุณคือ ความดี วันนี้ที่ได้เข้าใจได้ชัดเจนมากว่า คุณคืออะไร ... คุณคือปัญญาเมื่อมีปัญญาเพราะว่าฟังคำของพระพุทธเจ้า จึงเข้าใจในพระคุณของพระองค์ เพราะฉะนั้น พระปัญญาคุณซึ่งเป็นหลักเลย เพราะมีพระปัญญาคุณจึงมีพระคุณประการต่างๆ พวกเราที่ฟังมีปัญญาน้อยนิดก็เริ่มมีปัญญาที่เป็นคุณและรู้คุณ คือ รู้คุณของปัญญานิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ยังได้เริ่มและน้อมไป (ปัญญาน้อม) เป็นคุณที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

เชิญคลิกชมสนทนาปัญหาธรรม 15 ส.ค. 66

https://www.Youtube.com/live/5ZOjalAFSJU?feature=share

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอ.ธีรพันธ์ ครองยุทธ สำหรับคำถามค่ะ

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ