เภสัช ๕

 
wittawat
วันที่  21 ส.ค. 2566
หมายเลข  46415
อ่าน  365

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

ไม่นานมานี้กระผมได้ฟังข้อความเกี่ยวกับ เภสัช ๕ อย่าง ได้แก่ เนยใส เนยข้น น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำมัน

กระผมเข้าใจว่านอกจากน้ำปานะแล้ว เภสัช ๕ มีการถวายให้พระภิกษุหลังจากปุเรภัต (เวลาอนุญาตให้ฉันไม่เกินเที่ยงวัน) เพราะมีปรากฏว่าอุบาสิกาวิสาขา หลังเที่ยงก็ยังนำเภสัชไปถวายในสมัยพุทธกาล

กระผมมีข้อสงสัยดังนี้ครับ

1. พระภิกษุฉันแผ่นชีสที่เก็บไว้ในตู้เย็น กระผมเคยเห็นสมัย 30ปีที่แล้วตอนบวชเณรที่วัดหนึ่ง ไม่ทราบว่าต้องอาบัติหรือไม่ หรือว่าเป็นการฉันเภสัชประเภท ๑ (ไม่ทราบว่าชีสจะสงเคราะห์เป็นเนยข้นหรือไม่)

2. การเก็บยา เก็บได้ไม่เกิน 7วัน อันนี้เฉพาะเภสัช ๕ อย่างเดียว หรือว่า ยาหม่อง ยาพารา ที่วันหมดอายุก็เกิน 7 วัน อย่างนี้พระภิกษุท่านจะทิ้ง หรือต้องนำไปให้คนอื่นได้หรือไม่ครับ

3. นอกจากเภสัช ๕ ที่ทรงอนุญาต ไม่ทราบว่ายาแผนปัจจุบันประเภทอื่นๆ ก็สามารถถวายหลังเวลาเที่ยงด้วยใช่หรือไม่ครับ แล้วถ้าพระภิกษุรับและฉัน ยาที่นอกเหนือจาก เภสัช๕ จะต้องอาบัติไหมครับ

4. ถ้าพระภิกษุต้มน้ำโกโก้ใส่น้ำตาล ฉันในเวลาวิกาลไม่ทราบว่าต้องอาบัติไหมครับ

5. ถ้าฉันน้ำผึ้งกับน้ำร้อนเป็นยาแก้ปวดท้องนี่ต้องอาบัติไหมครับ

6. พระภิกษุปรุงยาคือ เนยใส ขึ้นมาเพื่อฉันเองได้ไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 24 ส.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1. พระภิกษุฉันแผ่นชีสที่เก็บไว้ในตู้เย็น กระผมเคยเห็นสมัย 30ปี ที่แล้วตอนบวชเณรที่วัดหนึ่ง ไม่ทราบว่าต้องอาบัติหรือไม่ หรือว่าเป็นการฉันเภสัชประเภท ๑ (ไม่ทราบว่าชีสจะสงเคราะห์เป็นเนยข้นหรือไม่)

เข้าใจว่าไม่ใช่เภสัชอย่างแน่นอน และที่สำคัญ เนย ที่เป็นเภสัช ต้องฉันเมื่อมีเหตุคือเจ็บป่วยเท่านั้น


2. การเก็บยา เก็บได้ไม่เกิน 7วัน อันนี้เฉพาะเภสัช ๕ อย่างเดียว หรือว่า ยาหม่อง ยาพารา ที่วันหมดอายุก็เกิน 7 วัน อย่างนี้พระภิกษุท่านจะทิ้ง หรือต้องนำไปให้คนอื่นได้หรือไม่ครับ

ยาหรือเภสัช ๕ เท่านั้น ที่เก็บไว้ฉันได้ภายใน ๗ วัน (ถ้าเห็นว่าจะเกิน ๗ วัน ก็ต้องสละ จะเก็บไว้ฉันไม่ได้ จะสละก่อนครบ ๗ วันก็ได้ แต่ถ้าเลย ๗ วันไปแล้ว ยังไม่สละ ยังเก็บไว้เพื่อฉัน ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ต้องสละวัตถุสิ่งของนั้นต่อภิกษุ คณะ หรือ สงฆ์ จึงจะแสดงอาบัติได้) แต่ในกรณีเก็บไว้ โดยน้อมไป ไม่ใช่เพื่อการฉัน แต่เพื่อประโยชน์อย่างอื่น มีการ ทา เป็นต้น ไม่ต้องอาบัติ) ถ้าเป็นยาอย่างอื่น สามารถเก็บไว้ได้ตลอดชีวิต


3. นอกจากเภสัช ๕ ที่ทรงอนุญาต ไม่ทราบว่ายาแผนปัจจุบันประเภทอื่นๆ ก็สามารถถวายหลังเวลาเที่ยงด้วยใช่หรือไม่ครับ แล้วถ้าพระภิกษุรับและฉัน ยาที่นอกเหนือจาก เภสัช๕ จะต้องอาบัติไหมครับ

สามารถรับประเคนได้ทุกเมื่อ และฉันได้ทุกเมื่อ เมื่อเกิดเจ็บป่วยเท่านั้น


4. ถ้าพระภิกษุต้มน้ำโกโก้ใส่น้ำตาล ฉันในเวลาวิกาลไม่ทราบว่าต้องอาบัติไหมครับ

เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เพราะฉันอาหารในเวลาวิกาล เนื่องจากโกโก้ ไม่ใช่น้ำปานะ


5. ถ้าฉันน้ำผึ้งกับน้ำร้อนเป็นยาแก้ปวดท้องนี่ต้องอาบัติไหมครับ
รับประเคนถูกต้อง แล้วปรุงฉันเพื่อแก้ปวดท้อง ย่อมไม่มีอาบัติ


6. พระภิกษุปรุงยา คือ เนยใส ขึ้นมาเพื่อฉันเองได้ไหมครับ
ถ้าฉันเป็นยา ไม่มีอาบัติ แม้จะปรุงเอง แต่ต้องไม่มีการหุงต้ม และสิ่งนั้นต้องได้รับประเคนอย่างถูกต้อง ครับ


... ยินดีในกุศลของคุณวิทวัตและทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wittawat
วันที่ 24 ส.ค. 2566

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ