ตรุษจีน สารทจีน ในความเข้าใจที่ถูกต้อง

 
แล้วเจอกัน
วันที่  26 ส.ค. 2550
หมายเลข  4646
อ่าน  11,145

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ตรุษจีน สารทจีน กับความเข้าใจที่ถูกต้อง (ธรรมต้องเป็นเรื่องตรง) สารทจีน เป็นประเพณีอย่างหนึ่ง ซึ่งตามความเข้าใจเดิมนั้น มีดังต่อไปนี้

ตามความเข้าใจเดิมไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้วิญญาณพเนจร

ไหว้เจ้า เจ้าคืออะไร คือเทพ แล้วไหว้เจ้ากันนั้น ไหว้ด้วยอะไร ด้วยของเซ่นต่างๆ เป็นต้น เพื่ออะไร เพื่อความเจริญของคนที่ไหว้

ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เพื่อแสดงความกตัญญู ไหว้ด้วยอะไร ด้วยของเซ่นต่างๆ มีเป็ด ไก่ ขนม และกระดาษเงิน กระดาษทอง เป็นต้น เพื่อให้บรรพบุรุษได้รับสิ่งต่างที่ลูกหลานทำให้

ไหว้วิญญาณพเนจร ด้วยของเซ่นต่างๆ เพื่อให้เขาได้รับอาหาร ด้วยความเข้าใจว่าเป็นวันประตูนรกเปิด เป็นต้น


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

ความเข้าใจที่ถูกต้องในทางพระพุทธศาสนา (สาร์ทจีน)

การไหว้เจ้า ไหว้เจ้า ... เจ้าคืออะไร คือ เทพ เทพต้องการอาหารแบบมนุษย์ไหม.? หรือ เทพมีอาหารทิพย์อยู่แล้ว ไม่ต้องให้อาหารมนุษย์ก็ได้ (ดังข้อความในพระไตรปิฎก พรหมเทวสูตร )

การบูชาเทพคืออย่างไร.? คือ ทำกุศลอุทิศผลบุญที่เราทำให้ ชื่อว่าบูชาเทพ (ข้อความใน ปาฏลิคามิยสูตร ) การที่เราจะเจริญหรือไม่เจริญ อยู่ที่กุศลใช่ไหม.? (สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน)

ระลึกถึงเทพอย่างไรจึงจะถูกต้อง? การได้เกิดเป็นเทพ เป็นผลมาจากกุศลกรรม และคุณธรรมของเทพนั้นก็มี ศรัทธา ศีล เป็นต้น ดังนั้น การระลึกถึงเทพ คือ ระลึกถึงคุณธรรม ที่เป็นธรรมฝ่ายดี เช่น ศรัทธา ศีล เป็นต้น จึงเป็นการระลึกถึงเทพที่ถูกต้อง (เทวตานุสสติ)

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

การไหว้บรรพบุรุษ

การกตัญญูต่อบรรพบุรุษ คืออย่างไร จึงจะถูกต้อง.?

การกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับคือ ทำกุศลแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ (สิงคาลกสูตร) อาหารของมนุษย์ บุคคล (บรรพบุรุษ) ที่ล่วงลับไปแล้วทานได้ไหม.? ... ไม่ได้ (อรรถกถาธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ)

การไหว้วิญญาณพเนจร

วิญญาณพเนจร มีจริงไหม.? ... ไม่มีจริง ตายแล้วต้องเกิดทันที (ถ้ายังมีกิเลส) ไม่มีวิญญาณไปเร่ร่อน ๗ วัน ๑๕ วัน แสวงหาที่เกิด แต่ที่เราเห็นว่า เป็นคนนั้น คนนี้ที่ตายแล้ว นั่นเป็นภพภูมิอื่นที่เขาไปเกิดแล้ว เช่น เปรตที่ต้องการส่วนบุญจากการอุทิศส่วนกุศล จึงมาปรากฎตัวให้เห็น เป็นต้น

ประตูนรกเปิดได้ไหม.? ... เปิดได้ บางครั้งบางคราว ต่อจากนั้น ก็อยู่ในนรกนั้นอีก (นรกขุมใกล้ๆ )

อาหารของสัตว์นรกคืออะไร.? ใช่อาหารของมนุษย์หรือเปล่า.? ไม่ใช่ แต่มีอาหารของสัตว์นรกอยู่แล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

เรื่อง บุคคลที่ควรกราบไหว้สูงสุด

ดังนั้น การกตัญญูที่ถูกต้อง สำหรับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้วคือ ทำบุญอุทิศกุศลไปให้เทวดาก็เช่นกัน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ และใคร..ที่ควรเราไหว้.? สูงสุดคือพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า เป็นบุคคลที่ควรกราบไหว้สูงสุด แม้แต่พรหม เทวดา มีพระอินทร์ เป็นต้น ก็ไหว้พระองค์ เพราะพระองค์เป็นบุคคลผู้เลิศครับ (ทุติยสักกนมัสนสูตร)

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

เรื่อง อาหารของเทพ ไม่ใช่อาหารแบบมนุษย์

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 133

ข้อความบางตอนจาก พรหมเทวสูตร

ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวกะนางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะด้วยคาถาทั้งหลายว่า

ดูก่อนนางพราหมณี ท่านถือการบูชาด้วยก้อนข้าวแก่พรหมใด มั่นคงเป็นนิตย์ พรหมโลกของพรหมนั้นอยู่ไกลจากที่นี้ ดูก่อนนางพราหมณี ภักษาของพรหมไม่ใช่เช่นนี้ ท่านไม่รู้จักทางของพรหม ทำไมจึงบ่นถึงพรหม.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

เรื่อง การบูชาเทพคือทำบุญแล้วอุทิศกุศลให้

[เล่มที่ 44] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 755

ข้อความบางตอนจาก ปาฏลิคามิยสูตร

บุรุษชาติบัณฑิต ย่อมสำเร็จการอยู่ในประเทศใด พึงเชิญท่านผู้มีศีล สำรวมแล้ว ประพฤติพรหมจรรย์ ให้บริโภคในประเทศ นั้น ควรอุทิศทักษิณาทานเพื่อเทวดาผู้สถิตอยู่ในที่นั้นๆ เทวดาเหล่านั้น อันบุรุษชาติบัณฑิตนับถือบูชาแล้ว ย่อมนับถือบูชาบุรุษชาติบัณฑิตนั้น แต่นั้นย่อมอนุเคราะห์บุรุษชาติบัณฑิตนั้น ประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตร บุคคลผู้อันเทวดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นความเจริญทุกเมื่อ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

เรื่อง การบูชาบรรพบุรุษคือ การทำบุญแล้วอุทิศกุศลให้

[เล่มที่ 16] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 88

ข้อความบางตอนจาก สิงคาลกสูตร

[๑๙๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดา เป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรธิดาพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ๑

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

เรื่องการจะอนุเคราะห์บุคคลที่ล่วงลับ ไม่ใช่นำอาหารแบบมนุษย์มาให้ เพราะไม่เกิดประโยชน์ ไม่พ้นจากความเป็นเปรตหรือหิวกระหาย แต่ต้องทำบุญอุทิศกุศลไปให้

ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่

เปรตหรือหิวกระหาย ทำบุญอุทิศกุศลไปให้ (เปตวัตถุ)

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ส.ค. 2550

เรื่อง บุคคลที่ควรบูชาสูงสุดแม้พระอินทร์ก็ไหว้นอบน้อมพระพุทธเจ้า

ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่

บุคคลที่ควรบูชาสูงสุด (ทุติยสักกนมัสนสูตร)

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 27 ส.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
korokoso
วันที่ 27 ส.ค. 2550

ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลย ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
pornchai.s
วันที่ 27 ส.ค. 2550

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
อิสระ
วันที่ 28 ส.ค. 2550
สาธุ // ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ajarnkruo
วันที่ 28 ส.ค. 2550

"ทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความเห็นผิด ยิ่งทำก็ยิ่งจะมีแต่สั่งสมกุศลเปล่าๆ ครับ"

มิลินทปัญหา

ปัญหาที่ ๑๐

พระเจ้ามิลินท์ ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน คนหนึ่งรู้ว่าทำอย่างไรเป็นบาป และบาปนั้นมีโทษอย่างไร อีกคนหนึ่งไม่รู้เสียเลย คน ๒ คนนี้ทำบาป ด้วยกัน ใครจะบาปมากกว่ากัน

พระนาคเสน ทูลตอบว่า ขอถวายพระพร คนไม่รู้บาปมากกว่า

ม. ไฉนจึงเป็นเช่นนั้นเล่าเธอ ก็ทางบ้านเมือง ผู้ที่ไม่รู้กฎหมายกระทำผิดบางอย่าง ย่อมได้รับความลดหย่อนผ่อนโทษเบากว่า ผู้รู้กฎหมาย

น. ขอถวายพระพร ก้อนเหล็กซึ่งเขาเผาไฟจนแดงโชน คนหนึ่งรู้ว่าเป็นเหล็กแดง อีกคนหนึ่งไม่รู้ ก็ถ้าจะให้คน ๒ คนนี้หยิบก้อนเหล็กแดงนั้น คนไหนจะหยิบได้เต็มมือ และถูกความร้อนเผามากกว่ากัน

ม. คนรู้จะหยิบได้สนิทหรือเธอ ต่อคนไม่รู้ จึงหยิบได้เต็มมือ เมื่อเช่นนั้นก็ต้องถูกความร้อนเผามากกว่าคนรู้

น. นั่นแลฉันใด นี่ก็ฉันนั้น คือผู้ที่รู้เหตุรู้ผลแห่งบาปกรรมโดยจริงใจ มีอยู่อย่างไร ขณะเมื่อตนกระทำบาปอยู่ย่อมเกิดความละอายใจ และความหวาดกลัวว่า ตนมิสมควรจะกระทำเช่นนั้นด้วยเกรงว่า ภายหลังจะได้รับความเดือดร้อนเพราะบาปกรรมนั้นตามให้ผล เป็นอันว่า มิกล้าที่จะกระทำบาปต่อไป อีกส่วนผู้ที่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรเป็นบาป และการกระทำนั้นมีโทษเพียงไร ย่อมไม่มีความตะขิดตะขวงใจ อาจทำได้ตามอำเภอใจ แม้บาปหนักๆ ก็ทำได้ โดยที่ตนไม่รู้ว่าการกระทำนั้นๆ ตนจะต้องเป็นผู้รับผลอย่างสาหัส ขอถวายพระพร ด้วยเหตุนี้แลจึงว่า คนไม่รู้บาปมากกว่า

ม. เธอว่านี้ชอบแล้ว

จบชานอชานปัญหา

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
olive
วันที่ 28 ส.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
udomjit
วันที่ 28 ส.ค. 2550

เรื่องคนไม่รู้บาปมากกว่าให้ข้อคิดให้ดิฉันระมัดระวังมากขึ้น ขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านค่ะการสนทนาของท่านทั้งหลายช่วยดิฉันได้มากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Sam
วันที่ 28 ส.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
ruangsak
วันที่ 28 ส.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
aditap
วันที่ 28 ส.ค. 2550
ขออนุโมทนาด้วยครับ ได้ความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น
 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ส.ค. 2550

สะสมมาอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น จนกว่าความเห็นถูกจะเกิดขึ้นเพราะเป็นธรรมไม่ใช่เรา

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
orawan.c
วันที่ 3 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
Komsan
วันที่ 3 ก.ย. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 29 ก.พ. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
ตะวัน
วันที่ 15 ก.พ. 2553

ลึกซึ้งมากๆ กับคำว่า คนไม่รู้บาปมากกว่า ผมมีคำดีๆ เอาไว้เตือนสติตัวเองแล้ว

ขอบคุณมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 26  
 
คุณ
วันที่ 17 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
captpok
วันที่ 23 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 28  
 
homenumber5
วันที่ 23 ส.ค. 2553

เรียนทุกความเห็น

สำหรับ ดิฉัน ขอทำความเข้าใจในเรื่องที่ไม่รู้ดังนี้ หากมีสิ่งใดที่ยังขาดไปขอโปรดชี้แนะด้วย

คนไม่รู้ นั้น ไม่รู้อะไร ที่เกี่ยวกับ พระพุทธศาสนาบ้าง

ไม่รู้จักพระพุทธเจ้า

ไม่รู้จักพระธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์

ไม่รู้จักพระอริยสาวก

ไม่รู้จักปฏิจจสมุปบาท

ไม่รู้จัก ธาตุ ขันธ์ อายตนะในอดีต

ไม่รู้จักธาตุ ขันธ์ อายตนในปัจจุบัน

ไม่รู้ธาตุ ขันธ์ อายตน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ฯลฯ

จะเห็นว่า เพียงเท่านี้ เราต้องรู้และเข้าใจศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากมายมหาศาลอย่างไร

เมื่อก่อนที่จะรู้จักการสร้างบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ดิฉันก็ยังไหว้เจ้าเผากระดาษอยู่ เดี๋ยวนี้เลิกหมดแล้ว รู้สึกสบายใจมากที่ได้พึ่งพระพุทธศาสนาในการสร้างกุสลไม่ทำตามๆ กันมา แบบก่อนๆ เป็ด ไก่ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องฆ่า สวดมนต์ ท่องจิต เจตสิก รูป ทุกอย่างที่เป็นพระพุทธวัจนะ แล้วกรวดน้ำอุทิศกุสล ได้กุศลจริง สบายใจ ค่อยๆ เพิ่มเติมธรรมสัญญา ให้รู้มาก เข้าใจมากขึ้นๆ ทำได้ถูกต้องมากขึ้นๆ ไม่ต้องเสียทรัพย์อย่างไม่รู้มาเกือบ ห้าสิบปีแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 29  
 
tanakase
วันที่ 24 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 30  
 
uls
วันที่ 25 ส.ค. 2553
ก่อนหน้านี้ก็ทำเช่นกัน ต่อไปนี้ต้องพิจารณาพระธรรมคำสอนให้มากๆ ค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 31  
 
Jans
วันที่ 28 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 32  
 
chaiyakit
วันที่ 9 ก.ย. 2553

........ขออนุโมทนาเช่นกันครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 33  
 
chatchai.k
วันที่ 14 ส.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 34  
 
aurasa
วันที่ 17 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 35  
 
เซจาน้อย
วันที่ 30 ม.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 36  
 
Wisaka
วันที่ 28 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 37  
 
jirat wen
วันที่ 28 ส.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 38  
 
Dusita
วันที่ 24 ส.ค. 2561

อนุโมทนา ค่ะ...ได้ ความรู้ ความจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 39  
 
Thanan
วันที่ 2 ก.ย. 2563

กราบอนุโมทนาครับ อ่านแล้วเกิดความเข้าใจถูกแสดงถึงความงดงามแท้

 
  ความคิดเห็นที่ 40  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 21 ก.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 41  
 
Nataya
วันที่ 14 ส.ค. 2566

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 42  
 
Wiyada
วันที่ 7 ก.พ. 2567

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ