รู้ว่าตนก็คือธรรมที่มีจริงนั่นเอง

 
nattawan
วันที่  28 ส.ค. 2566
หมายเลข  46468
อ่าน  373

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จะฝึกตน ก็ต้องรู้จักตน ที่เรียกว่าตน ก็ไม่พ้นสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ไม่พ้นธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา จิตและเจตสิก สิ่งเหล่านี้หรือคือตน และยึดถือเป็นตนด้วยความติดข้องนั่นเอง เพราะฉะนั้น เดือดร้อนก็เพราะตนนั่นเอง แต่การที่จะฝึกตนได้ ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญา รู้ว่าตนก็คือธรรมที่มีจริงนั่นเอง และธรรมเหล่านี้เกิดเพราะปัจจัย ทั้งหมดอยู่ที่จิต ดูเหมือนข้างนอกวุ่นวายมากมาย แต่ที่วุ่นวายก็เพราะจิตภายใน บัณฑิตคือผู้รอบรู้ในสิ่งที่มีจริง บัณฑิตย่อมฝึกตน คือฝึกจิตให้มีปัญญาเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะฝึกจิตได้คือปัญญาความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง เมื่อมีปัญญา จิตก็น้อมไปสู่ความเข้าใจถูกเพิ่มมากขึ้น จนดับกิเลสได้หมดสิ้น

บ้านธัมมะ ๑๓ มิ.ย. ๕๕
www.dhammahome.com/video/topic/1871


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

เราอยู่ในโลกของความมืด เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริง ไม่ได้ฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง ที่จะเป็นแสงสว่างส่องให้เห็นลักษณะสภาพธรรมที่ปรากฏในขณะนี้ได้ แม้นไม่ได้ปรากฏที่ตา เพราะฉะนั้น จะคิดเองหรือจะไตร่ตรองให้เข้าใจคำที่ได้ยินยิ่งขึ้น!!!

บ้านธัมมะ ๓๐ พ.ค. ๕๕
www.dhammahome.com/video/topic/1869

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

วันนี้เห็นโลภะบ้างหรือยัง!! ตื่นมาก็เต็มไปด้วยโลภะ แต่ไม่เห็นเลย ถ้าไม่เห็นโลภะ ละได้อย่างไร ไม่เห็นทางเลย ต้องฟังจนกว่าจะรู้จนละ เป็นหนทางเดียว

บ้านธัมมะ ๓๐ พ.ค. ๕๕
www.dhammahome.com/video/topic/1869

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

เห็นอะไร!! เห็นอะไรๆ มามากมายแล้วเห็นความไม่รู้บ้างหรือยัง!! ได้แต่เรียกชื่ออวิชชา จำว่าขณะนี้สภาพธรรมกำลังปรากฏ แต่เพราะอวิชชาทำให้ไม่สามารถเข้าใจถูกได้ แต่ลึกยิ่งกว่านั้น ความไม่รู้อยู่ที่ไหน!! เห็นเป็นคน ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็น ได้ ได้ยินเหมือนได้ยินคำ แต่ได้ยินเสียง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้รู้ได้ หมายความว่า ความไม่รู้ละเอียดมากและมีมาก แต่ถึงอย่างไรนั้น ก็ต้องพิจารณาให้ลึกซึ้งว่า " แล้วความไม่รู้อยู่ที่ไหน!! " อยู่ที่จิต ไม่ใช่อยู่ที่ภายนอกเลย เกิดกับจิตและสะสมมานานมาก เพราะฉะนั้น การที่จะละกิเลส ละความไม่รู้ ก็ต้องรู้ด้วยว่าไม่รู้ที่ไหน จะเอาความไม่รู้ที่มีมากมายมหาศาลในจิตออกได้อย่างไร!!! นานแสนนานที่สะสมความไม่รู้ และการฟังเพียงเล็กน้อย จะทำให้หมดความไม่รู้ เป็นไปไม่ได้!!!

การอบรมเจริญปัญญาต้องค่อยเป็นค่อยไป จนกว่าจะดับกิเลสได้หมดในที่สุด

บ้านธัมมะ ๒๓ พ.ค. ๕๕
www.dhammahome.com/video/topic/1868

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

ทุกคนเหมือนนักเขียนภาพ กำลังวาดภาพของชาติหน้า ใครวาดเก่ง วาดจนสวย น่าดูหรือน่ารังเกียจ ไม่ใช่คนอื่นทำให้เลย ธรรมซึ่งเป็นกุศลและอกุศลที่สะสมอยู่ ก็ทำให้แต่ละหนึ่งเป็นไปโดยหลากหลาย ซึ่งไม่ซ้ำกันเลย กำลังวาดรูปอยู่หรือเปล่า!! รูปใคร!! รูปคนอื่นจากคนนี้ ซึ่งจะเป็นคนนี้อีกต่อไปไม่นาน วาดดีๆ ก็แล้วกัน!!!

บ้านธัมมะ ๑๖ พ.ค. ๕๕
www.dhammahome.com/video/topic/1867

Photo cr. Num Sitdhiraksa

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

เกิดมาแล้วต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยที่ได้สะสมมา ไม่ว่าจะพูด จะคิด จะทำ จะสนุก จะทุกข์ ทั้งหมดต้องมีเหตุที่จะทำให้เกิดขึ้นเป็นไปอย่างนั้น นี่คือธรรม ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ว่า ไม่ใช่เราที่จะไปบังคับบัญชา ไปขอร้อง ไปวิงวอนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เป็นไปไม่ได้ แต่สามารถจะเข้าใจสิ่งที่เกิดแล้วตามความเป็นจริงว่า เพียงปรากฏแล้วหมดไป ก็ไม่เดือดร้อน สามารถเข้าใจในความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริง ก็จะไม่หวั่นไหวและคลายความอยากที่จะเปลี่ยนแปลงและบังคับ แต่ว่าสามารถจะเข้าใจได้ว่า ทุกอย่างเกิดชั่วคราว แล้วก็หมดไป

ทุกคนจะอยู่ในโลกนี้ไม่นาน และสิ่งที่มีทั้งหมดในชีวิต เป็นของเราจริงๆ หรือเปล่า แม้แต่เพียงรูปร่างกายซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรา เพียงไม่มีจิต เดินได้ไหม!! พูดได้ไหม!! ทำอะไรได้ไหม!! เพราะฉะนั้น ปัญญาเป็นเลิศ ทุกคนกลัวภัยภายนอก ไฟไหม้ น้ำท่วม แต่ภัยเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน และทำร้ายได้เพียงสิ่งที่สามารถเผาและทำลายได้

แต่ภัยจริงๆ คือ อกุศล ทำร้ายตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัวเลย เพราะฉะนั้น จะพ้นภัยจริงๆ จากกิเลสด้วยปัญญา ธรรมทั้งหมดจะบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา บรรดาสังขารธรรมทั้งหลาย ปัญญาเป็นเลิศ

บ้านธัมมะ ๑๖ พ.ค. ๕๕
www.dhammahome.com/video/topic/1867

Photo cr.Num Sitdhiraksa

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

ตนเองตามความเป็นจริง ว่ามีกิเลสมากเพียงใด แล้วพร้อมที่จะขัดเกลากิเลสของตนเองให้เบาบางลง ด้วยการเจริญกุศลทุกประการ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีความประพฤติที่ดีงามทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ต่อไป

www.dhammahome.com

Photo cr. Num Sitdhiraksa

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nattawan
วันที่ 28 ส.ค. 2566

ธรรมะวันนี้ สี่คำ

#ขันติ ความอดทน อดกลั้น ความอดทนที่เป็นไปในกุศลธรรม
#โอวาทปาฏิโมกข์ โอวาทที่ให้พ้นจากการตกไปสู่อบายภูมิ สู่อกุศลธรรม สูงสุดคือให้พ้นจากการเกิดในสังสารวัฏฏ์
#ปฏิบัติ การน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงด้วยปัญญา การถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏด้วยปัญญา
#ไสยศาสตร์ ศาสตร์แห่งความหลับใหล

บ้านธัมมะ
www.dhammahome.com

Photo cr. Num Sitdhiraksa

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ