แม้มีทุกอย่าง ก็ยังมีโลภะ

 
nattawan
วันที่  11 ก.ย. 2566
หมายเลข  46543
อ่าน  329

แม้แต่เพียงคำว่า “ความอดทน” ทุกคนต้องว่าดี ใช่ไหมคะ ความอดทนของเรา อดทนเฉพาะหนาวไป ร้อนไป เย็นไป หรืออดทนสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ใครเขาว่า ก็ไม่ต้องโกรธ ถือเสียว่าไม่เห็น ถือเสียว่าไม่ได้ยิน ถือเสียว่าเขาไม่รู้ ถือเสียว่าดับไปแล้ว ไม่ต้องมาทำให้จิตใจเศร้าหมอง

แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ต้องอดทนแม้แต่การที่จะพอใจสิ่งที่น่าพอใจด้วย
นี่คือ ความอดทนจริงๆ คือ อดทนที่จะไม่เกิดอกุศลชนิดหนึ่ง ชนิดใด

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๑๖๔๖

www.dhammahome.com/cd/topic/94/26


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 11 ก.ย. 2566

ถ้าทุกท่านจะคิดถึงชีวิตประจำวัน ก่อนหลับคืนนี้ ชวนจิตของท่านเป็นอะไร สติปัฏฐาน หรือโลภะ

ปกติธรรมดาถ้าไม่เป็นโทสะ ไม่มีเรื่องขุ่นใจบุคคลใด จิตก็ไม่พ้นจากคิด และเรื่องที่คิด คิดด้วยโลภมูลจิต โดยที่ทุกคนอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่า ไม่ว่าจะคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง ขณะนั้นถ้าไม่เป็นโทสะซึ่งขุ่นเคืองใจ ไม่สบายใจ ก็จะต้องเป็นโลภมูลจิต

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๑๙๗๙
www.dhammahome.com/cd/topic/147/30

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 11 ก.ย. 2566

โทษของความติดข้องในสุข

แทนที่จะอยู่สบายๆ ก็ต้องขวนขวายไปเรื่อยๆ เป็นทุกข์ไหม!!

ถ้าไม่สุขซะเลย ไม่ขวนขวายเลย จะดีกว่าไหม!!

แม้มีทุกอย่าง ก็ยังมีโลภะ

รายการบ้านธัมมะ 6 กุมภาพันธ์ 2556

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 11 ก.ย. 2566

"ความจริงทุกข์เท่านั้นที่เกิด
ทุกข์เท่านั้นที่ดับ"

ธรรมดาของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่เหลือเลย ไม่เที่ยง ไม่ควรติดข้อง แต่ก็ติดข้องเพราะไม่รู้ความจริง

รายการบ้านธัมมะ 30 มกราคม 2556

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 11 ก.ย. 2566

ชีวิตไม่ว่าของใคร ไม่ยืนยาวเลย สั้นมากและเหลือน้อยเต็มที ไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อใด เปรียบเหมือนน้ำค้างที่อยู่บนยอดหญ้า พอถูกแสงอาทิตย์ก็เหือดแห้งไป หรือเปรียบได้กับรอยไม้ที่ขีดลงไปในน้ำ น้ำนั้นย่อมกลับเข้าหากันโดยเร็ว และเปรียบเหมือน แม่โคที่จะถูกเชือด ถูกเขานำไปสู่ที่ฆ่า ก้าวเท้าเดินไป ใกล้ความตายเข้าไปทุกที

การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นประเสริฐยิ่งนัก เพราะมีโอกาสได้เจริญกุศลมากกว่าภพภูมิอื่น มากกว่าเทวดาทั้งหลายเสียอีก รวมทั้งได้ศึกษาพระธรรมอบรมปัญญาด้วย และขณะนี้แต่ละบุคคลได้ความเป็นมนุษย์แล้ว พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงก็ยังดำรงอยู่ จึงไม่ควรที่จะประมาทในชีวิต ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไป

ผู้ที่ไม่ไม่ประมาท ย่อมเจริญกุศลทุกประการและอบรมเจริญปัญญาด้วย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ได้ ก็เท่ากับเป็นผู้ที่มีตนเป็นที่รัก เป็นผู้รักตนอย่างถูกทาง ทำความเจริญให้กับตนเองด้วยการไม่กระทำความเสียหาย ไม่สร้างบาปกรรมให้กับตนเองเพื่อต้องรับผลกรรมนั้นต่อไป

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 11 ก.ย. 2566

ธรรมะวันนี้ สี่คำ

#สัจญาณ ปัญญาที่รู้ความจริงจากพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงอย่างมั่นคง
#วิปัสสนาญาณ ปัญญาที่เห็นแจ้งประจักษ์ชัดเจนในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
#อนิจสัญญา ความทรงจำว่าไม่เที่ยง เพราะรู้สภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง
#อนุสัยกิเลส กิเลสที่ตามนอนเนื่องอยู่ในจิตทุกๆ ขณะ เพราะยังไม่สามารถดับด้วยอริยมรรคโดยสิ้นเชิง

บ้านธัมมะ
www.dhammahome.com

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ