เราละหรือปัญญาละ

 
nattawan
วันที่  20 ก.ย. 2566
หมายเลข  46578
อ่าน  276

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กำลังมีปัญหา ... ปัญหาจะจบไหม!! ต้องตรง!! เคารพใครสูงสุด!! ใครจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ ... ถ้าไม่รู้จักคนที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ ... ปัญหายังคงมีต่อไป

ปัญหามาจากไหน!! มีทุกวันปัญหาของเด็ก ของผู้ใหญ่ ของที่ทำงานสาขาต่างๆ หรือของผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ทำงานแล้ว ... มีปัญหาไม่จบและไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะความไม่รู้ความจริง ... มั่นคงมาก ... ลองไปหาคนที่เขาจะแก้ปัญหา ... หากันจนทั่ว ... สมัยโน้นมีผู้ไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ที่จะแก้ปัญหา ... ไม่ใช่ปัญหาของพระองค์แต่ของผู้มีปัญหา ใครจะไปแก้ปัญหาของคนอื่นได้ ... ไม่มีทาง!! เพราะไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆ อยู่ที่ตัวเอง แล้วก็ไม่ได้แก้ที่ตัวเอง แล้วปัญหานั้นจะหมดไปได้อย่างไร!!

ทุกคนมีปัญหาแน่นอน เกิดมาคนที่ไม่มีปัญหานั้นไม่มี!! แต่ว่าพยายามไปแก้ปัญหาของคนอื่น ทั้งๆ ที่ผู้ที่จะแก้ปัญหาก็มีปัญหา เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถแก้ปัญหาของใครได้เลยทั้งสิ้น เพราะปัญหานั้นอยู่ที่ตัวเรา!!! เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องแก้ปัญหาที่ตัวเองจึงจะหมดปัญหา ถ้าใครเพียรพยายามไปแก้ปัญหาของคนอื่น ... คนนั้นกำลังมีปัญหา!!! ซึ่งไม่ได้แก้และไม่ได้คิดจะแก้ จึงแก้ไม่ได้สักคนเดียว ... เพราะทุกคนก็มีปัญหา

ถ้าเป็นผู้ที่มีความมั่นคงว่าเรามีปัญญาน้อย หรือเราไม่รู้อะไร หรือมีความไม่รู้ทั้งนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง ... แต่ไม่เคยรู้ตัวว่า ... ไม่รู้!!! เมื่อไหร่ที่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อนั้นจะเริ่มรู้จักตัวเองว่าไม่รู้!!! นั่นคือความเห็นที่ถูกต้อง!!! แต่คนที่ไม่รู้แล้วคิดจะแก้ปัญหาของคนอื่น ... เอาความไม่รู้ของตนไปแก้ปัญหาของคนอื่นได้ไหม!! จริงๆ แล้วพยายามไปแก้สักเท่าไหร่ ถ้าผู้นั้นไม่แก้ด้วยตนเอง ปัญหานั้นก็ไม่หมด เพราะฉะนั้น ทางที่ถูกต้องที่สุด ... จริงที่สุด ... แก้ตัวเอง

ปัญหาของตัวเอง เมื่อเริ่มรู้ว่าปัญหาของตัวเองอยู่ที่ไหน แต่ตราบใดที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหา ก็ไม่คิดแก้ปัญหาของตน แต่คิดแก้ปัญหาผู้อื่น แล้วจะสำเร็จไหม!! ต่างคนต่างไปแก้ปัญหาของคนอื่น แต่ตัวปัญหาอยู่ที่ตัวเอง แล้วจะสำเร็จได้อย่างไร!!

ลืมเสมอว่ามีใครเป็นที่พึ่ง กล่าวถึงเสมอแต่ลืมเสมอ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง มีพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ถ้าไม่รู้อย่างนี้จะแก้ปัญหาไม่ได้!!! ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้ ... ในสังสารวัฏฏ์!!!

เชิญคลิกชม ...

รายการบ้านธัมมะ 14 มกราคม 2566 เรื่อง เราละหรือปัญญาละ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 20 ก.ย. 2566

เริ่มรู้จักผู้ที่จะแก้ปัญหาได้ เมื่อนั้นเริ่มเข้าใจเป็นปัญญาของตัวเอง ที่จะแก้ปัญหาของตัวเอง ซึ่งสามารถจะแก้ได้ถึงความเป็นพระอรหันต์ ... เป็นพระอรหันต์มีปัญหาไหม!!! ไม่มีแต่จะเป็นได้อย่างไร ... ทุกคนอยากจะแก้ปัญหาทั้งนั้น คือ อยากจะเป็นพระอรหันต์ทั้งนั้น!! แล้วจะถึงได้อย่างไร!!! เริ่มสิ ... เริ่มรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ... ไม่คิดเอง ... ทุกทุกคำของพระองค์จะแก้ปัญหา!!!

เป็นผู้รู้ความจริงว่า ปัญหาเกิดเสมอจากความไม่รู้ ... แต่ไม่เห็น ... เห็นเมื่อไหร่ แก้ปัญหาเมื่อนั้น

ฟังให้เข้าใจความจริง ความรู้ความจริงนั่นแหละจะรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกและจะแก้ได้อย่างไร

ถ้าไม่มีความเข้าใจพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงเลย จะแก้ได้อย่างไร!!! พอเริ่มฟังเริ่มเข้าใจ ... ปัญหาต่างๆ ก็เริ่มลดลง

ผู้ที่ได้ฟังคำของพระองค์ และมีความเข้าใจถูกต้องเพิ่มขึ้น เริ่มรู้การแก้ปัญหาว่า จะแก้ปัญหาได้อย่างไร จากการฟังคำของพระองค์ ให้เข้าใจถูกต้องในความจริงทั้งหมด เริ่มรู้จักพระองค์ที่กราบไหว้บูชาสูงสุดทุกวัน มิฉะนั้นจะชื่อว่ารู้จักพระองค์ไหม!!!!!

จะหาคนแก้ปัญหา ... จะไปหาที่ไหนได้ แต่ถ้ารู้ว่าใครแก้ได้ ... ก็เข้าใจคำที่ผู้นั้นได้แสดงหนทางที่จะแก้ปัญหาของกิเลสทั้งหมด ... จนไม่เหลือเลย

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 20 ก.ย. 2566

ผู้ฟัง : ฟังธรรมแล้วเข้าใจ แล้วก็ลืม อยากทราบว่าเข้าใจพระธรรมจริงไหม!!

ทอจ : ลืมจริงไหม!! จริง ... เป็นธรรมะ ... เข้าใจแค่ไหน!! ลืมแล้ว ... ลืมความจริงว่าไม่มีเรา แต่แม้ลืมก็เป็นธรรมะ แต่เป็นธรรมะอะไร!! ธรรมะมีมากมายหลายอย่าง เป็นผู้ที่รู้ความลึกซึ้งของคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงความจริงที่ลึกซึ้ง กว่าจะรู้ได้ว่าขณะนั้นเป็นธรรมะอะไร ต้องฟังอีกนาน ถ้าไม่รู้ก็จะหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเองว่า ทำอย่างไรจะรู้มากกว่านี้!!! ปัญหามาแล้ว!!!

กว่าจะรู้ ... กว่าจะรู้ เพราะความไม่รู้ปกปิดมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ ขณะนี้เป็นทุกคนไปหมด แต่ละหนึ่งๆ เพราะไม่รู้ความจริง จึงมีปัญหาว่าแล้วเราจะทำอย่างไร!!

เป็นเราที่จะทำ ไม่เข้าใจว่าเป็นธรรมะที่เกิดแล้วตามเหตุปัจจัย ถ้าสามารถเข้าใจความจริงของธรรมะเพิ่มขึ้น ... หมดปัญหาแน่ ไม่ต้องมาคิดว่าแล้วเราจะทำอย่างไร!!!

พูดถึงธรรมะ แต่ยังไม่รู้จักตัวธรรมะเดี๋ยวนี้!!! พูดได้ว่ากำลังเห็น แต่ยังไม่รู้จักเห็น เห็นดับแล้ว และไม่รู้จักเห็นแล้วเห็นก็ดับไปอีก ... ทุกอย่างเกิดดับสืบต่อเร็วสุดที่จะประมาณได้ ... จริงไหม ... จริงก็ฟังให้เข้าใจความจริงนี้ต่อไป เพื่อที่จะได้ละความหวัง ความปรารถนาที่จะเข้าใจธรรมะ!!!

กว่าจะถึงความจริง ... อริยสัจจธรรม สัจจะที่ 2 ละความติดข้องเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ แค่นี้ ... ลืมแล้ว ... ทุกคำชัดเจน ความติดข้องอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์เพราะอยากเข้าใจมากๆ เพราะติดข้องในความเป็นเราที่จะเข้าใจ!!!!!

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 20 ก.ย. 2566

ความยากของพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเอาไว้ อยู่ที่ชีวิตประจำวันที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย แม้แต่จะศึกษาแต่ละคำๆ ให้เข้าใจจริงๆ ก็ยากแล้ว แต่การจะเข้าถึงความยากและความลึกซึ้งของพระธรรมนั้น ต้องเป็นความเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งเป็นความรู้ที่เป็นไปเพื่อการละจริงๆ

กราบนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 20 ก.ย. 2566

... บัณฑิต ย่อมทำประโยชน์แก่คนหมู่มาก ...

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ