ธรรมกับคนรุ่นใหม่ ตอนที่ 2

 
nattawan
วันที่  25 ก.ย. 2566
หมายเลข  46597
อ่าน  269

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คุณพชระ บุญญาสัย เป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจศึกษาพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากการสวดมนต์ แต่เมื่อได้รับคำชี้แนะจากพี่ชาย (คุณพฤฒ บุญญาสัย) ทำให้คุณพชนะฯได้ศึกษาพระธรรมด้วยความเป็นเหตุเป็นผล และมีความเข้าใจยิ่งขึ้น

พ : คนส่วนใหญ่ได้ยินคำว่า " ขันติ " แปลตามพจนานุกรมว่า ความอดทนอยากทราบว่า ขันติในพระพุทธศาสนาหมายถึงอะไร!!

ทอจ : เคยอดทนไหม!! อดทนทำอะไร!! วิ่งเพื่ออะไร!!

พ : ชอบวิ่งเฉยๆ ครับ

ทอจ : เพราะชอบจึงอดทนเพื่อที่จะได้สิ่งที่ชอบ มีสิ่งที่ประเสริฐกว่าสิ่งที่ชอบไหม!!

พ : มีครับ ... ความเข้าใจถูกครับ

ทอจ : ง่ายหรือยาก!! ต้องอดทนนานไหม!!

พ : ยากครับ ... ต้องอดทนนานครับ

ทอจ : วิ่งล่ะ!! อาจจะสำเร็จได้ถ้าขยันแต่ความลึกซึ้งของพระธรรม ... ทุกคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าพลาดหรือเข้าใจผิด ไม่มีทางที่จะรู้ความจริง และเป็นการทำลายคำสอนของพระองค์ด้วย

ถ้าไปนั่งอดทนเพ่งจ้อง หวังจะรู้ความจริงประจักษ์แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นไปได้ไหม!! ไม่ได้ ... จึงไม่เป็นบารมี ต้องมีความเข้าใจ ... อดทนที่จะฟังแล้วฟังอีก ที่จะเข้าใจจนไม่สงสัยเลยในขั้นฟัง ถ้าใครพูดถึงสิ่งที่มีจริง " ธรรมะ " รู้เลยว่าอะไร ... ไม่ต้องท่อง

ต้องมีความเพียรที่จะไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบ ... รอบด้าน จึงจะเข้าใจคำของพระองค์ ซึ่งเหมือนกับว่าเข้าใจแล้ว!!! นี่คือรอบด้านขั้นฟัง (ปริยัติ) ยังมีรอบด้านในขั้นปฏิบัติ ถึงเฉพาะความเข้าใจสิ่งที่ได้ฟังแล้วที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ จนกระทั่งเพียรที่จะไม่ละทิ้ง ที่จะสะสมความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อย จนประจักษ์แจ้งความจริงตามลำดับ ... ปฏิเวธ ... อดทนแค่ไหน!!!

เชิญคลิกชม www.dhammahome.com/video/topic/6018

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 25 ก.ย. 2566

พ : อริยสัจจธรรมมีความหมายว่าอย่างไร!!

ทอจ : ทีละคำ ... " ธรรมะ " คืออะไร!!

พ : ธรรมะคือสภาพที่เป็นจริงครับ เดี๋ยวนี้มีครับ ... เห็น ... ได้ยินเป็นธรรมะ เพราะมีจริงครับ

ทอจ : ตั้งต้นตรงนี้เลยว่า เราพลาดสิ่งที่มีจริงไม่ได้ ... ใช่ไหม!! มั่นคงว่าสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้แหละจริง จะไม่จริงได้อย่างไร และมีลักษณะที่หลากหลาย เพราะฉะนั้น ความลึกซึ้งมีมาก แม้แต่เพียงคำเดียวว่า " ธรรมะ " และมีจริง ... เดี๋ยวนี้นอกจากเห็น ... มีอะไรจริง!!

พ : ได้ยิน ได้กลิ่น

ทอจ : พร้อมกันหรือเปล่า!! ... (ไม่พร้อมกันครับ) ... ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ฟังจนกระทั่งมั่นคง ก่อนเห็นมีเห็นไหม!! ... (ผมงงกับคำถาม) ... นี่คือวิริยะที่จะไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเข้าใจที่ตรงและไม่ลืม ... เพราะมีความเข้าใจที่ถูกต้อง

พ : ผมขออนุญาตพิจารณาด้วยตัวเองก่อนได้ไหมครับ!!! ก่อนตอบซึ่งไม่ทราบว่าจะถูกหรือผิด ... ก่อนเห็นมีเห็น ... แต่ว่าเกิดดับไปแล้ว

ทอจ : แล้วก่อนเห็นจะเกิดดับมีเห็นไหม!! ... (ไม่ทราบแล้วครับ ... งงๆ นิดๆ ..) ... นี่ไงคะต้องคิดเมื่อกี๊นี้มีความเข้าใจผิดแต่เพียงว่า เห็นมีจริงเดี๋ยวนี้เกิดดับ แต่ถามให้คิดว่าก่อนเห็นมีเห็นไหม!! ... (ไม่มีเห็นครับ) ... ค่ะนี่ถึงจะถูก เพราะฉะนั้น ต้องไตร่ตรอง ถ้ารีบร้อนผิดเลย จะไม่ย้อนกลับมาคิดใหม่ ... ก่อนเห็นต้องไม่มีเห็น ... นี่ถึงจะถูกต้อง เพราะฉะนั้น ต้องไตร่ตรองละเอียดรอบคอบรอบด้าน ... แล้วมีธรรมะไหม!!! ธรรมะก่อนเห็นคืออะไร!!!

พ : คือสิ่งที่มีจริงครับ

ทอจ : คืออะไร สิ่งที่มีจริงเยอะแยะไปหมด ต้องชัดเจนว่าอะไร!! นี่คือการที่เราไม่ฟังเผินๆ ฟังเหมือนกับว่าเขาบอกมาเราก็รู้ ก่อนเห็นไม่ใช่เห็น ... ไม่มีเห็น ... แต่มีอะไรก็ไม่สามารถรู้ได้ ... ด้วยเหตุนี้ ไม่ประมาทในคำสอนที่ลึกซึ้ง เพราะกำลังเป็นเดี๋ยวนี้เอง แต่ถ้าไม่มีคำของพระองค์ไม่มีทางรู้เลย

เป็นบุญที่ได้สะสมมาที่จะไม่ใช่แค่ฟัง ... แต่เห็นประโยชน์สูงสุดของการไม่สามารถจะรู้ความจริงโดยไม่ฟังให้ละเอียด ไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบหรือคิดเอง รู้เลยว่าธรรมะคิดเองไม่ได้ เพราะฉะนั้น พระองค์ไม่ทรงแสดงพระธรรมถึง 45 พรรษา ทุกคำละเอียดมาก ... ทุกเรื่องด้วย

นี่เป็นปัญหาที่ให้คิดจนกระทั่งเข้าใจเอง ... ค่อยๆ หาเหตุผล และฟังคำพูดที่พูดแล้ว แต่ไม่ได้คิดไตร่ตรอง เพราะฉะนั้น หนทางที่จะเข้าใจคำของพระองค์ ทรงกล่าวถึงความลึกซึ้งของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ... ต้องเคารพในความลึกซึ้งอย่างยิ่งที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีนานเท่าไหร่ กว่าจะประจักษ์แจ้งความจริง ซึ่งเปลี่ยนไม่ได้ ความจริงอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนั้น

ตอนนี้ฟังคำถามแล้วไม่เดือดร้อนแล้วใช่ใหม!!!

พ : เป็นบางคำถามครับ

ทอจ : นี่คือขันติอดทนที่จะฟังคำถามเพราะรู้ว่าคำถามมีประโยชน์มาก ถ้าไม่ถามจะรู้ไหมว่าก่อนเห็นมีอะไร ... ก็คิดเพียงว่าก่อนเห็นก็มีเห็นที่เกิดดับ ... ไม่ถูกต้อง ... แต่ถ้าถามซ้ำไปมาเริ่มคิดแล้ว ก่อนเห็นคือไม่มีเห็น จึงจะถูกต้อง ต่อไปจะละเอียดกว่านี้มาก ทำให้การที่เราไม่เคยรู้มานานในสังสารวัฏฏ์นานแค่ไหน ถ้าวัดปริมาณไม่มีที่จะบรรจุเลยทั้งจักรวาลกี่จักรวาล เพราะทุกขณะที่มีเดี๋ยวนี้ไม่รู้!!! สะสมความไม่รู้ไว้เท่าไหร่!!!

เคยได้เคยได้ยินคำว่าบรมโง่ไหม!! เป็นคำที่แสดงความจริงให้คนที่ไตร่ตรองรู้ว่าใครโง่!! ... (คนที่ไม่รู้ครับ) ... แล้วใครที่ไม่รู้!! ... (ผู้ที่ไม่มีปัญญาครับ) ... แล้วใครล่ะที่ไม่มีปัญญา!! ... (ผู้ที่ไม่ได้สะสมความเข้าใจถูกมาครับ) ... แล้วใครไม่ได้สะสมมา ... (ไม่มีเรา ... ไม่มีเขา ... ) ... ถูกต้องค่ะ!!! แต่เพราะมีธรรมะจึงยึดถือว่าเป็นเรา!!! ถ้าไม่มีธรรมะเลยจะเอาอะไรมายึดถือ ... ทุกอย่างที่มีเป็นเราหรือเป็นของเราหรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ... บรมโง่หรือเปล่า!!! ไม่รู้ขณะเห็นขณะ ได้ยินก็ไม่รู้ ได้กลิ่น ลิ้มรส นั่งอยู่ตรงนี้ ... ก็ไม่รู้!!! ใครไม่รู้!!! เราไม่รู้!!! ใครโง่!!! ... (เรานี่แหละครับ) ... บรมโง่ ... นี่แหละกว่าจะเจอว่าใครบรมโง่!!!!!

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 25 ก.ย. 2566

ทอจ :คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้รู้ความจริง ก็เบิกบานเพราะขณะที่รู้นั้นเป็นปัญญา

พ : ปัญญาคือความเข้าใจถูกในสภาธรรมใช่ไหมครับ!!

ทอจ : ความเห็นถูกความเข้าใจถูกตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริง

พ : รวมถึงการปฎิบัติด้วยไหมครับ!!

ทอจ : ปฏิบัติคืออะไร!! ... (สิ่งที่ผมหมายถึงคือการประพฤติ ... ตอบไม่ได้ครับ)

ทอจ : บรมโง่แล้วใช่ไหม!! เบิกบานมาก ... ไม่โง่ต่อไป ... หายโง่เมื่อได้เข้าใจ ถ้าคิดว่าเราเข้าใจแล้ว ... ไม่มีทาง ... ไม่รู้จักพระองค์แน่นอน เพราะฉะนั้น เป็นผู้ที่อดทน ... ขันติระดับไหน ... ประมาณไม่ได้เลยในสังสารวัฏฏ์ จนกว่าจะฟังและเข้าใจโดยประการทั้งปวง ... ทุกคำที่พระองค์ตรัสถึงสิ่งที่มีจริงตามลำดับขั้น ... บารมีหรือเปล่า!! เป็นสัจจบารมีใช่ไหม!! รู้จักว่าอะไรโง่ตามความเป็นจริง!! มีขณะที่ไม่โง่ไหม!!!

พ : ไม่ครับ เพราะโง่อยู่ครับ

ทอจ : แล้วไม่มีวันจะหายโง่หรือ!!

พ : ถ้าสะสมความเข้าใจถูกก็ละคลายความโง่ไปทีละน้อยๆ ครับ

ทอจ : ขณะนั้นไม่โง่!!! เพราะฉะนั้น มีสภาพธรรมะ 2 อย่าง โง่คือไม่รู้อะไรเลย และไม่โง่คือเริ่มรู้ว่าบรมโง่

พ : โง่คือไม่รู้ ... ไม่โง่คือรู้ตามความเป็นจริง

ทอจ : เราใช้คำว่าปัญญาหรือวิชชา ก็คือ รู้ความจริง ... เริ่มได้รับประโยชน์จากการสนทนาธรรม ไม่ว่ารุ่นไหน แต่เข้าใจความจริง ... ก็เป็นรุ่นที่เริ่มเห็นถูกต้อง

กราบนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 25 ก.ย. 2566

จุดประสงค์ของการศึกษาธรรมะคือการเข้าใจความจริง ผู้ที่เริ่มต้นศึกษาพระธรรม ควรตั้งต้นต่อการเข้าใจพระธรรม เพื่ออบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลส ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใด อายุสักเท่าใด หากได้เริ่มศึกษาธรรมะ ก็เป็นการเริ่มสะสมความเข้าใจ ชื่อว่าเป็นบุคคลรุ่นที่เข้าใจความจริง

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 25 ก.ย. 2566

... เมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง ...

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ