ไม่ประมาทพระธรรมว่าไม่ลึกซึ้ง

 
nattawan
วันที่  30 ก.ย. 2566
หมายเลข  46623
อ่าน  190

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระธรรมลึกซึ้งอย่างยิ่ง การอบรมเจริญปัญญาต้องเป็นไปตามลำดับเริ่มตั้งแต่ขั้นการฟัง ต้องมีความเข้าใจขึ้น จนกว่าจะรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ตรงตามที่ได้ฟัง มิฉะนั้น จะไม่สามารถประจักษ์แจ้งความจริงได้ ไม่ประมาทพระธรรมว่าไม่ลึกซึ้ง

เชิญคลิกชม ...

รายการบ้านธัมมะ 12 พฤศจิกายน 2565 เรื่อง ไม่ประมาทพระธรรมว่าไม่ลึกซึ้ง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินตต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

ทุกครั้งที่ฟังธรรมเพื่อเข้าใจความจริง เพราะฉะนั้น แต่ละคำต้องไตร่ตรองให้เข้าใจแต่ละคำจริงๆ เพราะคำที่เราพูด กับคำที่พระองค์ตรัสเป็นคำๆ เดียวกัน ... แต่ปัญญา ... ความเข้าใจ ... ความลึกซึ้งต่างกันมาก จึงต้องฟังด้วยความเคารพว่า แม้เพียงคำเดียว ... พระปัญญาของพระองค์ที่ตรัสถึงความจริง กับการที่เราเริ่มได้ฟังเป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง ต้องค่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองจนเป็นความเข้าใจความลึกซึ้งของแต่ละคำที่พระองค์ตรัส

เป็นเรื่องที่จะต้องอดทนที่จะต้องรู้ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตเหนือสิ่งใดก็คือการรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ทุกคำของพระองค์เป็นความจริงเดี๋ยวนี้ที่แสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระองค์ ไม่สามารถรู้จักพระองค์ได้เลย

เป็นผู้ที่ตรง ... รู้จักพระองค์หรือเปล่า!!! ถ้ารู้จัก ... รู้จักอะไร!!! เหตุใดจึงสามารถที่จะเริ่มรู้จักความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า!!! เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรเคารพสูงสุดคือการรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง

ตั้งแต่เกิดมา ... ถามใครๆ ว่า ความจริงคืออะไร ... เขาจะตอบได้ไหม!!! แต่ผู้ที่ได้ฟังคำของพระองค์ เข้าใจว่าแม้แต่คำว่า " ความจริง " หมายความถึงอะไร!!!

เป็นเรื่องที่ละเอียด จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อประจักษ์แจ้งสิ่งที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีที่ได้ทรงประจักษ์แจ้งแล้ว แต่เพื่อเริ่มเข้าใจ กว่าจะรู้ความจริงที่พระองค์ตรัส ต้องอาศัยความเข้าใจทีละคำ ... ในสิ่งที่กำลังมีขณะนี้

ถ้าสิ่งนั้นไม่มี ... ฟังทำไม ... ไม่สามารถรู้อะไรได้ แต่ ณ บัดนี้เพิ่งเริ่มที่จะรู้ความจริงว่า เดี๋ยวนี้เข้าใจอะไร ... ในสิ่งที่กำลังมี เพราะฉะนั้น ฟัง ... ไตร่ตรองเพื่อจะได้เข้าใจถูก ... ไม่ใช่เพื่อถึงความเป็นพระโสดาบัน ... เพื่อไปละกิเลสอะไร ... เพราะยังไม่มีความรู้อะไรใช่ไหม!!!

ก่อนอื่นต้องมีความตรงว่า ต้องรู้ ต้องเข้าใจก่อน มิฉะนั้นแต่ละคำจะมีความหมายว่าอะไร เช่น ละกิเลส ดับกิเลสเป็นพระโสดาบัน เป็นพระอรหันต์ ... ก็ไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไร!!! และคืออะไร!!!

ต้องศึกษาทุกคำด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ที่จะรู้ความลึกซึ้งของสิ่งซึ่งเป็นปกติทุกวัน แต่ต้องอาศัยพระธรรมที่พระองค์ตรัส เพื่อให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริง แล้วจึงจะรู้ว่า ขณะนี้สิ่งที่มีจริงไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง!!!

กราบนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

บารมี คือ ความดีที่ทำให้ถึงฝั่ง คือ การดับกิเลส แต่ว่าจะถึงฝั่ง คือ การดับกิเลสได้อย่างไร ถ้าไม่เข้าใจธรรมะอย่างถูกต้อง

ก่อนอื่นอย่าเพิ่งไปทำบารมี โดยที่ไม่มีความเข้าใจธรรมะ แต่ถ้ามีความเข้าใจธรรมะอย่างถูกต้องเมื่อไหร่บารมีทั้งหลายย่อมเจริญขึ้น ตามกำลังความเข้าใจธรรมะจริงๆ

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

เพราะฉะนั้น สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ ที่ไม่เคยรู้เลยทั้งหมด ค่อยๆ เข้าใจขึ้นว่าสิ่งนั้นมีเมื่อเกิด ... ถ้าไม่เกิดไม่มี

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

แนะนำหนังสือ ...

เกิด แก่ เจ็บ ตาย

โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

ข้อความบางส่วนจากหนังสือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

ภิกษุในธรรมวินัย

ไม่รับและไม่ยินดี

ในเงินและทอง

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ย. 2566

... ผู้ฝึกตนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งที่หาได้ยาก ...

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ