เกิดมาเพื่อตาย

 
nattawan
วันที่  11 ต.ค. 2566
หมายเลข  46766
อ่าน  383

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางส่วนจากการสนทนาปัญหาธรรม 10 ต.ค. 66

สติเป็นธรรมชาติที่บำรุงแล้วอย่างไรในชีวิตประจำวัน!!

ต้องไม่ลืมว่าธรรมะทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงมีอยู่ตลอดเวลา ต้องมีปัจจัยที่สมควรจึงเกิดได้ ไม่มีใครสามารถเป็นตัวเราหรือใครทั้งสิ้น ที่จะไปทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น หรือจะทำให้ความเข้าใจมากมายมหาศาลในสิ่งที่กำลังมี ซึ่งไม่เคยได้ยินได้ฟังมาเลย ... ก็เป็นไปไม่ได้

เพราะฉะนั้น ต้องละเอียด ฟังเพื่อเข้าใจความละเอียด ความหลากหลายของธรรมะ ต้องเริ่มต้นที่มั่นคงว่า ธรรมะคืออะไร ... เป็นสิ่งที่มีจริงแน่นอน เพราะเหตุว่ามีลักษณะปรากฏให้รู้ว่า เป็นแต่ละหนึ่ง ... แต่ละหนึ่ง

แค่นี้เป็นความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นยังไม่ถึงตัวธรรมะจริงๆ ซึ่งเกิดดับเร็วสุดที่จะประมาณได้ กว่าจะเข้าใจความหมายของแต่ละธรรมะ ต้องอาศัยการฟัง การไตร่ตรอง การพิจารณา

เราจะรู้จักสติได้อย่างไร!! จะพูดเรื่องสติก็เพื่อเข้าใจ และรู้จักสติ แต่จะรู้จักสติได้อย่างไร!! ต้องฟังเพื่อรู้เดี๋ยวนี้มีสติไหม!! ไม่ต้องไปเร่งรัดที่จะรู้จักสติจนกว่าจะเข้าใจสติยิ่งขึ้นว่า สติคืออะไร ... สติเกิดเมื่อไหร่ ... สติรู้อะไร ... ฟังเพื่อสะสมอบรมความเข้าใจ ... ในสิ่งที่มีและไม่เคยรู้เลย

จนกระทั่งพอได้ยินก็เริ่มรู้ว่าลักษณะของสิ่งที่มีแต่ละหนึ่ง ในขณะที่สิ่งนั้นมีปรากฏให้รู้ได้ แต่จะมีหรือไม่มี ไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้ เพราะฉะนั้น ความลึกซึ้งของธรรมะที่ต้องฟังด้วยการไตร่ตรอง ฟังชื่อฟังเรื่องของสิ่งที่มี แต่ยังไม่รู้จักตัวสติ ไม่ว่าขณะนั้นจะมีสติก็รู้ว่ามี ขณะนั้นไม่มีสติก็รู้ว่าไม่มี หมายความว่าความเข้าใจเรื่องสติมั่นคงพอที่จะเข้าใจจริงๆ ในธรรมะที่เป็นสติหรือไม่ใช่สติ ในขณะที่เกิดขึ้นเป็นไป

เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ก็คือ ถ้าเราเข้าใจเพียงแค่นี้ไม่พอ ว่าเวลานี้สติมีหรือเปล่า ... สติเกิดหรือเปล่า ... ก็ต้องฟังต่อไปจนกระทั่งค่อยๆ รู้และเข้าใจสภาพธรรมะที่มีโดยไม่เลือก ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามเหตุตามปัจจัยปรุงแต่ง ให้มีความเข้าใจ ไม่ใช่แต่เฉพาะสติ อะไรก็ได้ที่กำลังมีทุกขณะในชีวิตประจำวันต้องไม่ลืมว่า ฟังธรรมะเพื่อเข้าใจธรรมะที่กำลังมีกำลังปรากฏ และค่อยๆ เข้าใจความเป็นธรรมะทีละเล็กทีละน้อยตามที่ได้ฟังโดยความเป็นอนัตตา

เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เราแล้วเป็นอะไรที่กำลังเริ่มจะค่อยๆ เข้าใจคำที่ได้ฟังว่าหมายความถึงอะไร ... เดี๋ยวนี้มีไหมลักษณะนั้นเป็นอย่างไร ให้รู้ตามความเป็นจริงว่า สิ่งที่กำลังพูดถึงลึกซึ้งอย่างยิ่ง ไม่สามารถที่จะรู้ได้ด้วยความไม่รู้ และด้วยความเพียรผิดที่อยากจะรู้ต้องการจะรู้ แต่ต้องเป็นเรื่องละความไม่รู้ ... ในสิ่งที่มี ... ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ... ไปเรื่อยๆ ... ตามเหตุตามปัจจัย จึงสามารถที่จะรู้ได้ละเอียดขึ้น ชัดเจนขึ้นว่า ... ขณะนั้นน่ะอะไร!!!

เกิดมาเพื่ออะไร!! เกิดมาเพื่อตายเท่านั้นเอง ไม่มีเพื่ออะไรทั้งสิ้น ต้องตายแน่นอน เพราะฉะนั้น เกิดมาเพื่อตาย แต่ก่อนตายก็แล้วแต่จะเห็น จะได้ยิน จะสนุกสนาน จะอร่อย จะเพลิดเพลิน จะทุกข์ จะสุขก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย

เกิดมาเพื่อก่อนตายจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตลอด แต่พอถึงเวลาตาย ทุกอย่างก็จบ แต่ตามความเป็นจริงเดี๋ยวนี้ก็จบไปเป็นอย่างๆ โดยไม่รู้ตัวว่า จบแล้วคือไม่กลับมาอีกเลย

เพราะฉะนั้น แต่ละคำประโยชน์สูงสุดคือให้รู้ความจริงว่า ทุกอย่างที่ได้ฟังจริงไหม เกิดมาเพื่อตายเพราะต้องตายแน่ ไม่มีใครพ้นความตายไปได้ จะช้าหรือเร็ว ไม่มีใครรู้ ... จริงไหม!!

ก่อนตายติดข้องในสิ่งต่างๆ หรือเปล่า จนกว่าจะมีผู้ที่ตรัสรู้ความจริงถึงที่สุด เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงความจริงที่ได้ทรงประจักษ์ และได้ทรงแสดงหนทางที่จะรู้ความจริง ซึ่งละเอียดอย่างยิ่ง ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เป็นอริยสัจจธรรม

เพราะฉะนั้น ต้องฟังคำของพระองค์ เริ่มรู้ความจริงที่ไม่ใช่เรา ... ที่มีจริงในแต่ละขณะในชีวิตประจำวัน จนกว่าจะประจักษ์แจ้งความจริง เกิดมาเพื่อตาย แต่คิดว่าได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ หารู้ไม่ว่าที่เข้าใจว่าได้นั้น ... หมดทันทีที่ปรากฏ!!!!!

เชิญคลิกชม

สนทนาธรรม วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 - 11.30 น.

Facebook​ Page : วิทยุออนไลน์​บ้านธัมมะ
fb.watch/nAtM1Fg6li/?mibextid=NnVzG8

Facebook Group : ชมรมบ้านธัมมะ
fb.watch/nAtWESCudF/?mibextid=NnVzG8

YouTube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
www.youtube.com/live/B86A7GcvvzA?si=mITlZQj_NEJkOvaB

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ