ปัญญา … ต้องตามลำดับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การอบรมเจริญปัญญาในพระพุทธศาสนา ต้องเป็นไปตามลำดับตั้งแต่เบื้องต้น การฟังคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อฟังแล้วก็รู้ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงนั้น ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงกับสิ่งที่มีขณะนี้อย่างไร!!
เข้าใจแล้วก็เป็นปัญญาของตนเองปัญญานั่นเองเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็มีปัจจัยสามารถเกิดขึ้นอีกไปตามลำดับ
เชิญคลิกชม ...
รายการบ้านธัมมะ 6 สิงหาคม 2565 เรื่อง ปัญญา..ต้องตามลำดับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
ที่ใดก็ตามที่มีผู้ที่สามารถจะเข้าใจธรรมะที่พระองค์ได้ตรัสรู้ พระองค์ก็เสด็จไปโปรด แต่ว่าต้องคิด ได้ยินคำว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและทางสายกลางของพระองค์ไม่กี่ครั้งเอง แต่ว่ารู้จักพระองค์และรู้จักทางหรือยัง และทางนั้นไปไหน!! นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าธรรมะที่เราพูดกันในภาษาไทยก็ดูธรรมดาๆ แล้วลึกซึ้งอย่างไร!!
แต่ต้องไม่ลืมคำของพระองค์เมื่อทรงตรัสรู้แล้วตรัสว่า ธรรมะลึกซึ้งยากที่จะรู้ได้ พอพูดว่าทางสายกลาง ... เรารู้แล้วหรือ ... ทางไหนไปไหน ... และมีกี่ทาง และนี่เป็นทางสายกลางอย่างไร!!
ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดมาก แต่การที่จะเป็นผู้ที่ละเอียด เริ่มจากการที่เริ่มรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ยินแต่ชื่อ กราบไหว้บูชา แต่ถ้าถามว่านับถืออะไรที่พระองค์ตรัส ... ตอบได้ไหม!! ตอบคำที่ไม่เคยคิดมาก่อน เช่น ทางสายกลาง แต่ถ้ามีการซักไซ้ให้เข้าใจจริงๆ ไม่ใช่คิดกันเอาเอง ก็จะรู้ได้ว่าคำนี้แสดงถึงการที่พระองค์ทรงดำเนินจนกระทั่งรู้แจ้งอริยสัจจธรรม
แล้วอริยสัจจธรรมอยู่ที่ไหน ฟังแล้วในหนังสือเรียนสมัยก่อนสำหรับเด็กๆ ก็มีคำนี้ แต่เด็กเข้าใจไหม และคนที่กล่าวคำนี้เข้าใจหรือเปล่า!!
ต้องเริ่มเป็นผู้ตรงเหมือนที่พระโพธิสัตว์เริ่มตรงต่อความจริง ... อะไรจริงเดี๋ยวนี้ และอะไรทำให้บุคคลหนึ่งเห็นแล้วรู้ว่า ความจริงสามารถจะรู้ได้ว่าสิ่งนั้นมีจริงๆ ... แค่นี้เราก็ไม่ได้คิด ... เราจะตามคำว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อริยสัจจธรรม ... อะไรเป็นธรรมะ ... อะไรเป็นสัจธรรม ... อะไรเป็นการตรัสรู้ ... เผินมาก
ถ้าจะเป็นผู้ที่เคารพนับถือพระองค์สูงสุดจริงๆ ต้องฟังทุกคำ ไตร่ตรองทุกคำ จนกระทั่งเข้าใจแต่ละคำ ... เพราะว่าคำนั้นเป็นคำของใคร ไม่ใช่คำของครูบาอาจารย์คนโน้นคนนี้คนนั้นเลย แต่เป็นคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่เริ่มปลูกฝังความเป็นผู้มตรง และการได้ยินได้ฟังอะไรไม่ใช่ให้เราเชื่อ หรือทำตามกันไปโดยไม่เข้าใจ แต่ว่าทุกคำสามารถเข้าถึงความลึกซึ้งอย่างยิ่งตามลำดับ ... ถูกไหมในเมื่อเป็นคำของพระองค์ ... จะไม่ลึกซึ้งหรือ!! ... สิ่งที่ลึกซึ้งอยู่ไหน ... ต้องไปหาที่ไหนไหม ... ถ้าได้ยินได้ฟังยังไม่รู้เลยว่าอะไรลึกซึ้ง ... จะไปหาได้อย่างไร!!
แต่เดี๋ยวนี้มีอะไร ... พระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้หรือเปล่า!! ถ้าไม่ทรงตรัสรู้จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือ ในเมื่อสิ่งนั้นมีจริงๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย ... ต่อไปอีกทุกขณะ ... ความจริงต้องเป็นความจริงอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ใครรู้ความจริงว่าเดี๋ยวนี้เรารู้ความจริงหรือเปล่า ทั้งๆ ที่กำลังเป็นความจริงทุกๆ ขณะ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เป็นผู้ที่ละเอียด จะไม่ฟังคำของพระองค์ด้วยความเคารพในความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครเป็นพุทธะถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
แต่ละคำต้องศึกษาด้วยความเคารพจริงๆ และต้องมีความเข้าใจ แต่ทุกคำของพระองค์ให้ผู้ฟังไม่ใช่เชื่อ ... แต่ฟังให้เข้าใจ ... คำนั้นจริงหรือเปล่า ถูกต้องไหม ... เป็นความรู้ของตนเองที่ได้รับจากการตรัสรู้ เพราะฉะนั้น ประโยชน์สูงสุดในสังสารวัฏฏ์ คือ มีโอกาสได้รู้ว่า ความจริงคืออะไร และผู้จะรู้ความจริงได้คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ... ใช่ไหม!!
พระองค์ทรงตรัสรู้แล้วทรงแสดงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อได้กล่าวถึงสิ่งที่ทรงตรัสรู้ ถ้าไม่กล่าวถึงสิ่งที่ทรงตรัสรู้ ใครจะรู้ว่าเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อทรงตรัสรู้อย่างไร ... ตรัสความจริงที่ทรงตรัสรู้อย่างนั้น ให้คนที่ได้ฟังเริ่มรู้ว่า ตัวเองไม่รู้อะไรเลย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
คำว่าธรรมะคำเดียวถ้าเข้าใจจริงๆ สามารถถึงความเป็นพระอรหันต์ได้แต่กว่าจะเข้าใจจริงๆ ปัญญาต้องเป็นไปตามลำดับ ไม่สามารถจะไปเร่งรัดหรือข้ามขั้นได้เลย เพราะพระธรรมที่พระองค์ได้ทรงแสดงไว้ เป็นความจริงตลอดที่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงขณะนี้
ผู้ที่มีความเข้าใจธรรมะถูกต้องแล้วจะไม่ทำร้ายพระธรรม ... ซึ่งเปรียบเหมือนพระกายของพระองค์
... แต่ละคำจะทำให้เข้าใจตามความเป็นจริง เมื่อไม่ประมาทที่จะรู้ว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าวทรงตรัสรู้อะไร ... จึงทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยพระมหากรุณาไม่มีกิเลสใดๆ เพื่อพระองค์เลยทั้งสิ้น แต่เพื่ออนุเคราะห์คนที่ไม่รู้มานานแล้วในสังสารวัฏฏ์ และรู้เองก็ไม่ได้ จนกว่าจะมีโอกาสได้ฟังคำ เห็นประโยชน์มั่นคงที่จะรู้ว่า ธรรมลึกซึ้ง แต่รู้ได้ ...