ความรู้สึกว่าเป็นตัวตน

 
สิงหา
วันที่  15 ต.ค. 2566
หมายเลข  46791
อ่าน  265

ขอกราบเรียนถามว่าความรู้สึกว่าเป็นตัวเป็นตนนี้ จัดเป็นบัญญัติใช่ไหมครับ หรือเป็นสักกายทิฏฐิครับ

ขอบพระคุณมากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขณะที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล นั้น เป็นความเห็นผิด ไม่ใช่บัญญัติเรื่องราวแต่อย่างใด

สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ได้แก่ ทิฏฐิเจตสิก

สิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรม และสิ่งที่มีจริงนั้น มีจริงในชีวิตประจำวัน ทุกขณะมีแต่ธรรมเท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้รวมถึงความเห็นผิด ก็มีจริง เป็นสภาพธรรมที่เป็นทิฏฐิเจตสิก ผู้ที่เป็นปุถุชน สะสมความเห็นผิดมามากในสังสารวัฏฏ์ สะสมความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ มีบุคคล เห็นผิดว่าเที่ยง เป็นสุข เป็นต้น การจะไถ่ถอนความเห็นผิดได้นั้น ก็ด้วยปัญญา แต่เพราะยังไม่ได้ดับความเห็นผิดได้อย่างเด็ดขาด ยังมีพืชเชื้อของความเห็นผิดอยู่ ความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล (สักกายทิฏฐิ) ก็ย่อมเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ เป็นอกุศลธรรมที่เห็นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นจริง และที่ตั้งที่จะให้ทิฏฐิประเภทนี้เกิดขึ้น ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่จริงที่เกิดดับในขณะนี้ ที่เป็นขันธ์ ๕ ได้แก่รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ ซึ่งล้วนเป็นธรรมที่มีจริงในขณะนี้ เพราะยังไม่เข้าใจตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมแต่ละอย่าง เช่น เห็นเป็นธรรม ไม่ใช่เราที่เห็น ได้ยินเป็นธรรมไม่ใช่เราที่ได้ยิน เป็นต้น จึงมีการยึดถือความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน

ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็ยังไม่สามารถดับความเห็นผิดใดๆ ได้เลย แต่ความเห็นผิดทุกประการจะถูกดับได้อย่างหมดสิ้น เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน พระโสดาบันดับความเห็นผิดได้อย่างหมดสิ้น สักกายทิฏฐิ ซึ่งเป็นความเห็นผิดที่ยึดถืดสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคล ก็ดับได้ ไม่เกิดขึ้นอีกเลย พระโสดาบันไม่มีความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล

การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มีประโยชน์อย่างยิ่ง ขณะที่ฟังแล้วเข้าใจ ขณะนั้นกุศลธรรมเจริญขึ้น ศรัทธา ปัญญา เป็นต้น เกิดขึ้นเป็นการขัดเกลาละคลายความเห็นผิด รวมถึงอกุศลธรรมประการอื่นๆ ด้วย ขณะที่กุศลธรรมเกิดอกุศลธรรมจะเกิดร่วมด้วยไม่ได้ และความเห็นผิดจะถูกดับได้อย่างเด็ดขาดเมื่ออบรมเจริญปัญญาถึงความเป็นพระโสดาบันเมื่อนั้นความเห็นผิด จะไม่เกิดขึ้นอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งจะต้องเริ่มสะสมอบรมความเข้าใจถูกเห็นถูก ไปตามลำดับจริงๆ ครับ

... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ต.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ